ดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวกเกือบ 100 จุด บ่งชี้วอลล์สตรีทพุ่งคืนนี้ ขณะหุ้นแบงก์ดีดตามบอนด์ยีลด์

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 25, 2018 18:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าพุ่งขึ้นเกือบ 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร ตามการทะยานขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ณ เวลา 18.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 80 จุด หรือ 0.29% สู่ระดับ 26,690 จุด

หุ้นกลุ่มธนาคารต่างปรับตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวอลล์สตรีทในวันนี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้

ณ เวลา 18.15 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.113% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.248%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีทะยานขึ้นทะลุระดับ 2.840% ในการซื้อขายเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี หลังจากที่นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวเตือนเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ

ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 25-26 ก.ย. โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนธ.ค. หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.และมิ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้ ส่วนในปีหน้า เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง

ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 181.45 จุด หรือ 0.68% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากทั้งสองประเทศได้เริ่มบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าครั้งใหม่เมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากปัจจัยการเมืองในสหรัฐ หลังมีข่าวว่า นายร็อด โรเซนสไตน์ รมช.ยุติธรรมสหรัฐ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง

นางซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมพบนายโรเซนสไตน์ในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากมีกระแสข่าวว่านายโรเซนสไตน์ได้ลาออกจากตำแหน่ง

"ท่านประธานาธิบดีได้พูดคุยกับคุณโรเซนสไตน์เพื่อหารือเกี่ยวกับรายงานข่าวที่เกิดขึ้น" นางแซนเตอร์สกล่าว

"เนื่องจากท่านประธานาธิบดีขณะนี้กำลังเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ และมีกำหนดพบปะกับผู้นำจากทั่วโลก ท่านประธานาธิบดีและคุณโรเซนสไตน์ก็จะพบกันในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่ท่านประธานาธิบดีกลับมายังกรุงวอชิงตันดี.ซี." โฆษกทำเนียบขาวกล่าว

Axios ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวในสหรัฐ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า นายร็อด โรเซนสไตน์ รมช.ยุติธรรมสหรัฐ ได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้

ทางด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทำเนียบขาวได้ยอมรับหนังสือลาออกของนายโรเซนสไตน์แล้ว

อย่างไรก็ดี กระแสข่าวการลาออกของนายโรเซนสไตน์ยังคงมีความสับสน โดยสำนักข่าวหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงเอ็นบีซี นิวส์ รายงานว่า นายโรเซนสไตน์จะไม่ลาออกเอง โดยเขาจะออกจากตำแหน่งก็ต่อเมื่อทำเนียบขาวมีคำสั่งปลดเขาออก

ทั้งนี้ การลาออกจากตำแหน่งของนายโรเซนสไตน์จะส่งผลกระทบต่อนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ อัยการพิเศษที่ทำหน้าที่สืบสวนความเกี่ยวพันระหว่างรัสเซียและคณะหาเสียงของปธน.ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 รวมทั้งการสอบสวนปธน.ทรัมป์ในข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรม

นายโรเซนสไตน์เป็นผู้แต่งตั้งนายมูลเลอร์ให้ทำการสอบสวนดังกล่าว และนายโรเซนสไตน์ยังเสนอให้เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมบันทึกเสียงคำให้การของปธน.ทรัมป์ในทุกกรณี เพื่อใช้เป็นหลักฐานซึ่งจะนำไปสู่การถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง

นายแลร์รี่ แมคโดนัลด์ เจ้าของรายงาน Bear Traps Report ระบุว่า การลาออกของนายโรเซนสไตน์จะสร้างปัญหาต่อพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ