ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าพุ่งขึ้นเกือบ 200 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะฟื้นตัวขึ้นในคืนนี้ หลังจากทรุดหนักเมื่อวานนี้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในวันนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากจะเป็นวันที่มีบริษัทจดทะเบียนจำนวนมากที่สุดในรอบนี้ที่จะเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 3 โดยมีบริษัทในดัชนี S&P 500 จำนวน 66 แห่ง และบริษัทในดัชนีดาวโจนส์ 2 แห่งที่จะรายงานผลประกอบการในวันนี้
บรรดาบริษัทในดัชนี S&P 500 ซึ่งได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 แล้ว จำนวน 80% ได้รายงานผลประกอบการที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ณ เวลา 17.23 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 194 จุด หรือ 0.79% สู่ระดับ 24,810 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดดิ่งลงกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่ายอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐร่วงลงติดต่อกัน 4 เดือน รวมทั้งรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้า ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 300 จุด จากแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงบริษัทเท็กซัส อินสตรูเมนท์ ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ หลังเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 7% ในเดือนนี้ โดยมีปัจจัยรบกวนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง, ความวิตกเกี่ยวกับการขาดดุลงบประมาณของอิตาลี, ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย กรณีการเสียชีวิตของนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวซาอุดีอาระเบีย
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน