ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก นักลงทุนคลายกังวลข้อพิพาทการค้าสหรัฐ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday November 3, 2018 05:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบ สวนทางภูมิภาค โดยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.00 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 364.08 จุด และพุ่งแข็งแกร่ง 3.3% ในรอบสัปดาห์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2559

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,518.99 จุด เพิ่มขึ้น 50.45 จุด หรือ 0.44% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,102.13 จุด เพิ่มขึ้น 16.35 จุด หรือ 0.32% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,094.12 จุด ลดลง 20.54 จุด หรือ -0.29%

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นทั่วยุโรปได้รับแรงหนุน ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาแก้ไขข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการร่างข้อตกลงการค้ากับจีนแล้ว ก่อนที่ปธน.ทรัมป์มีกำหนดพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา โดยการประชุม G20 มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับปธน.สี จิ้นผิง เพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งการหารือดังกล่าวเป็นไปด้วยดี

"ผมเพิ่งมีการสนทนาที่ใช้เวลานาน และเป็นไปอย่างดีมากกับท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เราได้คุยกันในหลายประเด็น โดยเน้นหนักทางด้านการค้า ซึ่งการหารือดังกล่าวเป็นไปด้วยดี โดยเรามีกำหนดพบปะกันในการประชุม G20 ที่อาร์เจนตินา และเรายังมีการหารือกันเป็นอย่างดีเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ปธน.ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาคิดว่าสหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงทางการค้าครั้งใหญ่กับจีน แต่เขาก็เตือนว่าสหรัฐพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีรอบใหม่ต่อสินค้าจีนวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับจีน

ขณะเดียวกันวานนี้ สำนักงานการธนาคารแห่งยุโรป (EBA) เปิดเผยว่า ธนาคารขนาดใหญ่ของสหภาพยุโรปทั้ง 48 แห่งต่างก็สามารถผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของธนาคารกลางยุโรป (ECB)

การทดสอบดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจวัดความแข็งแกร่งของระบบธนาคารยุโรป ขณะที่พบว่าธนาคารบาร์เคลย์สของอังกฤษ ได้คะแนนต่ำที่สุด และธนาคารลอยด์ก็ได้คะแนนต่ำเช่นกัน ส่วนธนาคารดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดของยุโรป ได้คะแนนดีกว่าที่คาดไว้

ECB ระบุว่า ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าธนาคารในยุโรปสามารถรับมือได้มากขึ้นกับเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกในตลาดการเงิน

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบสวนทางตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค โดยดัชนีฟุตซี่ปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่ง รวมถึงค่าจ้างรายชั่วโมงที่พุ่งสูงขึ้น ประกอบกับมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้สั่งการให้คณะรัฐมนตรีร่างข้อตกลงการค้ากับจีนตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้แต่อย่างใด

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปที่มีการเปิดเผยวานนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 สู่ระดับ 52.0 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 26 เดือน และต่ำกว่าระดับ 53.2 ในเดือนก.ย.

ดัชนี PMI ยังคงถูกกดดันจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน ขณะที่การส่งออกลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีครึ่ง ส่วนความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2555

อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า กิจกรรมในภาคการผลิตของยูโรโซนยังคงมีการขยายตัว โดยดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 เป็นเวลา 64 เดือนติดต่อกัน

เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ ออสเตรีย และกรีซ เป็นกลุ่มประเทศที่มีภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง ขณะที่อิตาลี และเยอรมนี ทรุดตัวลง

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้น โดยสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด พุ่ง 4.4% หุ้นพรูเด็นเชียล ไฟแนนเชียล บวก 3.8%

ขณะที่หุ้นบริษัทสินค้าหรูหราปิดบวกเช่นกัน โดยหุ้นเคอริ่ง เจ้าของแบรนด์ กุชชี่ และ อีฟส์ แซงต์ โลรองต์ พุ่ง 5.5% และหุ้นเบอร์เบอร์รี่ บวก 2.6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ