ดาวโจนส์ปรับตัวแคบ นักลงทุนซื้อขายระมัดระวัง ก่อนเลือกตั้งกลางเทอมพรุ่งนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 5, 2018 22:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวแคบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในวันพรุ่งนี้

ณ เวลา 22.08 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,285.95 จุด เพิ่มขึ้น 15.12 จุด หรือ 0.06%

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททำการปรับเวลาซื้อ-ขายหุ้นในตลาด เริ่มต้นจากวันนี้ โดยปรับเวลาช้าลง 1 ชั่วโมง หลังจากสิ้นสุดช่วง Daylight Saving Time

ทั้งนี้ ตลาดจะเปลี่ยนแปลงเวลาซื้อ-ขาย จากเดิม 20:30-03:05 น. ตามเวลาไทย เป็น 21:30-04:05 น.ตามเวลาไทย

การปรับเวลาซื้อ-ขายดังกล่าวนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2561-11 มีนาคม 2562

ราคาหุ้นแอปเปิล อิงค์ร่วงลง 2.5% สวนทางตลาด หลังบริษัทโรเซนแบลตต์ ซีเคียวริตี้ส์ ประกาศปรับลดอันดับความน่าลงทุนของแอปเปิล จาก Buy สู่ Neutral หลังจากที่แอปเปิลได้รายงานยอดขาย iPhone ที่ต่ำกว่าคาด และคาดการณ์รายได้ที่น่าผิดหวัง พร้อมกับประกาศว่าจะยุติการแจ้งยอดขายจำนวน iPhone ในการเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาส

โรเซนแบลตต์ระบุว่า เป็นเรื่องยากที่แอปเปิลจะสามารถชดเชยยอดขายจำนวนเครื่องที่ลดลง ด้วยราคาขายที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562

การที่โรเซนแบลตต์ประกาศปรับลดอันดับความน่าลงทุนของแอปเปิลในวันนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ที่แอปเปิลถูกปรับลดอันดับนับตั้งแต่การประกาศผลประกอบการ หลังจากที่แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของแอปเปิลเมื่อวันศุกร์

ทางด้านสำนักข่าวนิกเกอิรายงานว่า แอปเปิลได้แจ้งต่อบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ และเพกาตรอน ซึ่งเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์ iPhone ของแอปเปิล เพื่อให้บริษัททั้งสองยุติแผนการเพิ่มกำลังการผลิต iPhone XR ซึ่งเป็น iPhone ราคาถูกรุ่นล่าสุดของแอปเปิล

"ในช่วงแรกฟ็อกซ์คอนน์ได้เตรียมไลน์การผลิตเกือบ 60 ไลน์สำหรับการผลิต iPhone XR แต่มีการใช้จริงเพียง 45 ไลน์ เนื่องจากแอปเปิลแจ้งว่าไม่จำเป็นต้องผลิตจำนวนมากในขณะนี้" นิกเกอิรายงาน

ทั้งนี้ แอปเปิลได้เปิดตัว iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ แอปเปิลยังได้ระบุเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ายอดขายในช่วงท้ายปีอาจจะต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ผลการสำรวจของเอ็นบีซี นิวส์/วอลล์สตรีท เจอร์นัลพบว่า พรรคเดโมแครตยังคงมีคะแนนนำพรรครีพับลิกันอยู่ 7% โดยอยู่ที่ 50% ต่อ 43% ในการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้

อย่างไรก็ดี พรรครีพับลิกันสามารถลดช่องว่างกับพรรคเดโมแครต จากที่ก่อนหน้านี้ถูกทิ้งห่างกันถึง 9%

ผู้สังเกตการณ์ระบุว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศส่งกำลังทหารไปสกัดคาราวานผู้อพยพตามแนวชายแดน ได้ช่วยกระตุ้นฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นกลุ่มคนผิวขาวในวัยทำงาน

ทั้งนี้ การเลือกตั้งกลางเทอมจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐทั้งสภา คือจำนวน 435 คน ขณะที่เลือกสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 35 คนจากทั้งหมด 100 คน รวมทั้งเลือกผู้ว่าการรัฐ 36 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐ

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าพรรคเดโมแครตจะสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ส่วนพรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา ซึ่งหากผลการเลือกตั้งออกมาดังกล่าวก็จะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น

หากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากได้ทั้ง 2 สภา สิ่งนี้ก็จะทำให้ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากจะทำให้รัฐบาลมีแนวโน้มออกมาตรการปรับลดอัตราภาษีต่อไป

แต่หากพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากทั้ง 2 สภา ก็จะทำให้ตลาดหุ้นถูกกดดัน เนื่องจากจะทำให้การผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นไปอย่างลำบาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ