ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับงบประมาณของรัฐบาลอิตาลี รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของอังกฤษ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% ปิดที่ 362.03 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,325.44 จุด ลดลง 203.72 จุด หรือ -1.77% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,059.09 จุด ลดลง 47.65 จุด หรือ -0.93% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,053.08 จุด ลดลง 52.26 จุด หรือ -0.74%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับงบประมาณของรัฐบาลอิตาลี โดยรัฐบาลอิตาลีจะยื่นงบประมาณเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ในวันนี้ โดยไม่มีการปรับแก้เป้าหมายตัวเลขการขาดดุลงบประมาณตามที่ EC ได้ท้วงติงก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่า EC อาจไม่อนุมัติงบประมาณของอิตาลีอีกครั้ง หลังจากที่ได้ปฏิเสธเมื่อเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ Brexit หลังมีข่าวว่า รัฐมนตรี 4 รายของอังกฤษ ซึ่งมีแนวคิดสนับสนุนให้อังกฤษรวมตัวเข้ากับสหภาพยุโรป เตรียมลาออกจากคณะรัฐมนตรี เพื่อกดดันนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,053.08 จุด ลดลง 52.26 จุด, -0.74%
หุ้นอาร์มส์ เอจี ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของบริษัทแอปเปิล อิงค์ ดิ่งลง 23% โดยได้รับแรงกดดันจากราคาหุ้นแอปเปิลที่ร่วงลงอย่างหนักในตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากบริษัทลูเมนตัม โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเลเซอร์ที่สามารถจับภาพ 3 มิติในฟีเจอร์ faceID ที่ใช้ในการผลิต iPhone ประกาศปรับลดแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2 ของปีหน้า โดยระบุว่า หนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัทได้ประกาศลดคำสั่งซื้ออุปกรณ์ดังกล่าว
รายงานดังกล่าวได้สร้างความกังวลเกี่ยวกับยอดขายของ iPhone รุ่นล่าสุดของแอปเปิลในช่วงที่ช่วงเทศกาลวันหยุดใกล้มาถึง ขณะที่นายโก๊ะ หมิง-ฉี ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์จากบริษัททีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล ซิเคียวริตี้ส์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับบริษัทแอปเปิล ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ยอดขาย iPhone XR ลง 30 ล้านเครื่องในรายงานเมื่อวานนี้
หุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ดิ่งลง 12% หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า คณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐเตรียมแบนการจำหน่ายบุหรี่กลิ่นเมนทอล
กลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ขยายตัว 3.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ย.ที่มีการขยายตัว 3.6%
ทั้งนี้ หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 3.5% ขณะที่หุ้นริโอทินโต ดิ่งลง 3.3%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 11 เมื่อคืนนี้ ทั้งนี้ หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับตัวลง 0.2% ขณะที่หุ้นบีพี ดิ่งลง 1%
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นเอชเอสบีซี ร่วงลง 1.6% หุ้นบาร์เคลย์ส ปรับตัวลง 1.2%