ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 205.99 จุด หลังราคาหุ้นแอปเปิล-หุ้นกลุ่มแบงก์ดิ่งหนัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 15, 2018 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) หลังจากราคาหุ้นแอปเปิลดิ่งลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่า แอปเปิลอาจประสบปัญหายอดขาย iPhone ที่ตกต่ำในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า การที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนั้น จะนำไปสู่การใช้มาตรการที่เข้มงวดต่อภาคธนาคาร

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,080.50 จุด ลดลง 205.99 จุด หรือ -0.81% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,701.58 จุด ลดลง 20.60 จุด หรือ -0.76% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,136.39 จุด ลดลง 64.48 จุด หรือ -0.90%

ราคาหุ้นแอปเปิล ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักทรัพย์จำนวน 30 หลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์นั้น ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ร่วงลงอีก 2.8% ปิดที่ระดับ 186.80 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 233.47 ดอลลาร์ในวันที่ 3 ต.ค. นอกจากนี้ มูลค่าตลาดของแอปเปิลได้ดิ่งลงสู่ระดับ 8.86 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.13 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นแอปเปิลร่วงลงอย่างหนักนั้น มาจากความกังวลที่ว่า แอปเปิลจะประสบปัญหายอดขาย iPhone ตกต่ำในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Guggenheim Partners ได้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิล อิงค์ สู่ระดับ neutral จาก buy และยกเลิกเป้าหมายราคาที่ระดับ 245 ดอลลาร์ ทางด้านยูบีเอสได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขาย iPhone ในไตรมาสปัจจุบัน สู่ระดับ 73.5 ล้านเครื่อง จากเดิมที่ระดับ 75 ล้านเครื่อง

การร่วงลงของราคาหุ้นแอปเปิลส่งผลให้ราคาหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 2.6% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.4% หุ้น Nvidia ร่วงลง 1.06% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ร่วงลง 1.7% และหุ้นอินเทล ลดลง 0.6%

ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง หลังจากนางแม็กซีน วอเตอร์ส สมาชิกสภาคองเกรสสังกัดพรรคเดโมแครตซึ่งเป็นที่คาดหมายว่าจะก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการบริการด้านการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนั้น ได้แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่า เธอจะผลักดันให้มีการใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นในภาคธนาคาร

ทั้งนี้ หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวลง 0.2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 1.86% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ดิ่งลง 1.12% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลดลง 1.25% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ดิ่งลง 2.06% และหุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 2%

หุ้นเมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 7.18% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 5.40 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.41 พันล้านดอลลาร์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย. หากเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 2.5% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนก.ย. นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ