ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 208.77 จุด รับความหวังสหรัฐ-จีนเจรจายุติข้อพิพาทการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 16, 2018 06:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า สหรัฐได้ชะลอการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเอาไว้ชั่วคราว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มส่งสัญญาณคลี่คลายลง นอกจากนี้ การฟื้นตัวของราคาหุ้นแอปเปิลยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,289.27 จุด พุ่งขึ้น 208.77 จุด หรือ +0.83% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,730.20 จุด เพิ่มขึ้น 28.62 จุด หรือ +1.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,259.03 จุด เพิ่มขึ้น 122.64 จุด หรือ +1.72%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ หลังจากไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยกับผู้บริหารในแวดวงอุตสาหกรรมของสหรัฐว่า รัฐบาลสหรัฐได้ชะลอการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเอาไว้ชั่วคราว

ทั้งนี้ แม้ว่าโฆษกของนายไลท์ไฮเซอร์ได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าวของไฟแนนเชียล ไทม์สในเวลาต่อมา แต่ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวกจนกระทั่งปิดทำการซื้อขาย

มีการคาดการณ์กันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะพบปะกันนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา ในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. เพื่อเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า

หุ้นแอปเปิลฟื้นตัวขึ้นและช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นอเมซอน ดีดตัวขึ้น 1.3% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 1.1% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัมแม่ของกูเกิล เพิ่มขึ้น 1.5% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นไมครอน เทคโนโลยีส์ ทะยานขึ้น 4.9% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 5.5% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.2% และหุ้นอินเทล ปรับตัวขึ้น 2.1%

หุ้นเจซี เพนนีย์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 12% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 3 ที่ระดับ 2.65 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.81 พันล้านดอลลาร์

หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้เปิดเผยการถือครองหุ้นประจำไตรมาส 3 โดยระบุว่า บริษัทได้ถือครองหุ้นในเจพีมอร์แกนเป็นมูลค่าสูงถึง 4,024,000,000 ดอลลาร์

หุ้นวอลมาร์ทร่วงลง 2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 1.08 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.01 ดอลลาร์/หุ้น แต่บริษัทมีรายได้ 1.2489 แสนล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.2555 แสนล้านดอลลาร์

ส่วนหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐนั้น ปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ นำโดยหุ้น JD.com พุ่งขึ้น 6.33% และหุ้นอาลีบาบา ปรับตัวขึ้น 3.8%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 0.8% ในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนก.ย. โดยการดีดตัวขึ้นของยอดค้าปลีกในเดือนต.ค.ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์และวัสดุก่อสร้าง ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 216,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 212,000 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ