ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 123.95 จุด ขานรับ"ทรัมป์"เผยจีนต้องการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday November 17, 2018 06:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) ขานรับถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ว่า จีนต้องการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐและยังได้ส่งรายการสินค้าจำนวนมากให้สหรัฐได้ทราบถึงความตั้งใจของจีนที่จะเปิดกว้างทางการค้า อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนลบ หลังจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัท Nvidia Corp ได้ฉุดหุ้นกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ร่วงลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,413.22 จุด พุ่งขึ้น 123.95 จุด หรือ +0.49% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,736.27 จุด เพิ่มขึ้น 6.07 จุด หรือ +0.22% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,247.87 จุด ลดลง 11.16 จุด หรือ -0.15%

ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงราว 2.22% ดัชนี S&P500 ลดลง 1.61% และดัชนี Nasdaq ลดลง 2.15%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ หลังจากปธน.ทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในห้องทำงานรูปไข่ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ว่า จีนต้องการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ และได้ส่งรายการสินค้าจำนวนมากที่จีนได้เปิดกว้างทางการค้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจีนต้องการคลี่คลายข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐ

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า การที่สหรัฐได้ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าของจีนนั้น ได้สร้างแรงกดดันต่อจีนจนทำให้จีนเห็นพ้องที่จะทำข้อตกลงการค้า

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดใกล้ถึงจุดที่จะกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่เป็นกลางแล้ว และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ควรอิงจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับ

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนหน้าโดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวขึ้น 1.02% และหุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 1.06%

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นพีจีแอนด์อี กรุ๊ป ทะยานขึ้น 37.5% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี เพิ่มขึ้น 0.63% หุ้นคอนโซลิเดทเต็ด เอดิสัน อิงค์ เพิ่มขึ้น 0.6% และหุ้นเอ็กเซลอน เพิ่มขึ้น 0.7%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ร่วงลง และได้ฉุดดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ หลังจากหุ้น Nvidia Corp ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลงอย่างหนักถึง 19% ขณะที่ดัชนี PHLX Semiconductor Index ดิ่งลง 1.2%

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ร่วงลง หลังจาก Nvidia เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่มีรายได้ต่ำกว่าคาด โดย Nvidia ระบุว่าบริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.84 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.71 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ระดับ 3.18 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.24 พันล้านดอลลาร์

หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 3% หลังจากนายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเฟซบุ๊ก และคณะกรรมการผู้บริหารของเฟซบุ๊ก ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้บทวิจารณ์ของหนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ ที่ว่า คณะผู้บริหารของเฟซบุ๊กจงใจมองข้ามสัญญาณเตือนเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวจากฝั่งรัสเซียในแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก และพยายามปิดบังปัญหาดังกล่าวต่อรัฐบาลและประชาชน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ในเดือนต.ค. โดยปรับตัวขึ้น 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. ส่วนเมื่อเทียบรายปี การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 4.1% ในเดือนต.ค.

ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นการวัดการปรับตัวของภาคการผลิต, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ