ดาวโจนส์ทรุดเกือบ 500 จุด ลบช่วงบวกทั้งหมดในปีนี้ หุ้นเทคโนโลยีทุบตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 20, 2018 22:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งเกือบ 500 จุดในวันนี้ และลบช่วงบวกทั้งหมดที่เคยทำไว้ในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัททาร์เก็ต

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล) ต่างปรับตัวลงในวันนี้

ณ เวลา 22.28 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,518.10 จุด ลดลง 499.34 จุด หรือ 2.00%

ราคาหุ้นทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลงเกือบ 10% หลังจากที่บริษัทเปิดเผยรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 3 แต่กำไรและยอดขายต่ำกว่าคาด

ทั้งนี้ ทาร์เก็ตระบุว่า บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 1.782 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.780 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี บริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.09 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.12 ดอลลาร์/หุ้น ขณะเดียวกัน บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 5.1% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.2%

หุ้นในกลุ่ม FAANG ซึ่งอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท มีมูลค่าตลาดดิ่งลงมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ เมื่อพิจารณาจากระดับปิดตลาดวานนี้

ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่ม FAANG ได้ปิดตลาดอยู่ในภาวะหมีเมื่อวานนี้ ซึ่งหมายความว่า หุ้นของแต่ละบริษัทได้ทรุดตัวลงไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์

เมื่อแยกเป็นรายบริษัทพบว่า เฟซบุ๊กมีมูลค่าตลาดลดลง 2.50 แสนล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ขณะที่แอปเปิลลดลง 2.22 แสนล้านดอลลาร์, อเมซอนลดลง 2.55 แสนล้านดอลลาร์, เน็ตฟลิกซ์ลดลง 6.3 หมื่นล้านดอลลาร์ และอัลฟาเบทลดลง 1.55 แสนล้านดอลลาร์

โกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับลดราคาเป้าหมายของบริษัทแอปเปิล อิงค์ในวันนี้ พร้อมกับเตือนว่า อุปสงค์ที่อ่อนแอของผลิตภัณฑ์แอปเปิล ซึ่งรวมถึง iPhone XR ในจีนและตลาดเกิดใหม่ และการแข็งค่าของดอลลาร์ จะเป็นปัจจัยสกัดราคาหุ้นแอปเปิลไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปจนถึงปีหน้า

ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ปรับลดราคาเป้าหมายของแอปเปิลสู่ระดับ 182 ดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 209 ดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการปรับตัวลง 2% ในปีหน้า อย่างไรก็ดี ทางบริษัทยังคงอันดับความน่าลงทุนของแอปเปิลที่ neutral

ก่อนหน้านี้ แอปเปิลได้รายงานยอดขาย iPhone ที่ต่ำกว่าคาด และคาดการณ์รายได้ที่น่าผิดหวัง นอกจากนี้ แอปเปิลยังประกาศว่าจะยุติการแจ้งยอดขายจำนวน iPhone, iPad และ Mac โดยเริ่มตั้งแต่ไตรมาสถัดไป ซึ่งสร้างความประหลาดใจต่อนักลงทุน

นักวิเคราะห์เตือนว่า การที่แอปเปิลประกาศเปลี่ยนแปลงรูปแบบการรายงานผลประกอบการดังกล่าว เป็นการแสดงว่าบริษัทอาจต้องการปกปิดบางสิ่งบางอย่าง ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า สิ่งนี้เป็นการส่งสัญญาณว่าแอปเปิลกำลังคาดการณ์ยอดขาย iPhone ที่ตกต่ำลงในอนาคต และกลยุทธ์ในการออก iPhone รุ่นที่มีราคาแพงเพื่อหวังชดเชยกับการลดลงของจำนวนเครื่องที่จำหน่ายได้นั้น จะไม่ประสบความสำเร็จ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โกลด์แมน แซคส์ได้ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การผลิต iPhone ของแอปเปิลในปีหน้า โดยลดลง 6% จากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ หลังจากที่บริษัทลูเมนตัม ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของแอปเปิล ได้ปรับลดแนวโน้มผลประกอบการ "เรามีความกังวลว่าความต้องการ iPhone รุ่นใหม่จะทรุดตัวลง" โกลด์แมน แซคส์ระบุในรายงาน

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ได้ออกรายงานทิศทางการลงทุนประจำปี 2562 ในวันนี้ โดยแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มการถือครองเงินสด ขณะที่การลงทุนในตลาดหุ้นมีความเสี่ยงสูง และให้ผลตอบแทนไม่มากนัก ท่ามกลางแรงกดดันจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์แนะนำให้นักลงทุนทั่วไป, กองทุนรวม และกองทุนบำนาญเพิ่มการถือครองเงินสด โดยเงินสดจะเป็นสินทรัพย์ที่สามารถแข่งขันกับหุ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังแนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้น defensive ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มปลอดภัย มีปัจจัยพื้นฐานดี และราคาปรับตัวไม่หวือหวา ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ

โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ดัชนี S&P 500 จะปรับตัวขึ้นเพียง 5% แตะระดับ 3,000 ในปลายปีหน้า ขณะที่ตลาดหุ้นให้ผลตอบแทน 7%

ขณะเดียวกัน โกลด์แมน แซคส์เตือนว่า หากสหรัฐเดินหน้าเพิ่มการจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนเป็น 25% ในปีหน้า ก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลประกอบการของบริษัทสหรัฐ โดยจะฉุดการขยายตัวของกำไรบริษัท

แม้ว่าโกลด์แมน แซคส์เชื่อว่าตลาดหุ้นจะยังคงอยู่ในภาวะกระทิงในปีหน้า แต่ก็จะแกว่งตัวมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐในปี 2563

ราคาหุ้นโบอิ้งดิ่งลงกว่า 3% ในวันนี้ หลังจากที่บริษัทประกาศยกเลิกการจัดประชุมทางไกล (conference call) กับสายการบินต่างๆ เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับระบบของเครื่องยนต์โบอิ้งรุ่น 737 MAX ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับของสายการบินไลอ้อน แอร์ ซึ่งประสบอุบัติเหตุตกลงในอินโดนีเซียในเดือนที่แล้ว จนส่งผลให้ผู้ที่อยู่บนเครื่องทั้งหมด 189 คนเสียชีวิต

โศกนาฏกรรมของสายการบินไลอ้อน แอร์ นับเป็นอุบัติเหตุครั้งแรกของเครื่องบินโบอิ้งรุ่นล่าสุดที่มีลำตัวแคบ ขณะที่ผู้สอบสวนอุบัติเหตุดังกล่าวพุ่งเป้าไปในประเด็นที่ว่า นักบินได้รับทราบมาก่อนหรือไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงซอฟต์แวร์ของรุ่น 737 MAX และการตอบรับในกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

โบอิ้งระบุว่า ทางบริษัทจะยังคงทำการติดต่อสายการบินต่างๆ แม้มีการยกเลิกการจัดประชุมทางไกลในวันนี้

อย่างไรก็ดี ผู้ถือหุ้นโบอิ้งมองว่าการที่บริษัทยกเลิกการประชุมทางไกลในวันนี้ เป็นการปกปิดข้อมูลต่อลูกค้า โดยสายการบินหลายแห่ง รวมทั้งสหภาพนักบิน ระบุว่า โบอิ้งยังไม่ได้แจ้งรายละเอียดล่าสุดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบบซอฟต์แวร์ของรุ่น 737 MAX

ทางด้านนายเดนนิส มุยเลนเบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโบอิ้ง ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องการปกปิดข้อมูลดังกล่าว โดยยืนยันว่าบริษัทได้แบ่งปันข้อมูลเท่าที่มีการสอบสวนในขั้นตอนนี้ และบริษัทจะยังคงรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยในระดับสูง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ