ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น จากแรงหนุนถ้อยแถลงปธ.เฟด เรื่องอัตราดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 29, 2018 11:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยบวกจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่บ่งชี้ถึงมุมมองที่มีต่ออัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างไปจากมุมมองก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์เรื่องผลลัพธ์ที่ดีจากการประชุมนอกรอบระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,646.76 จุด ลดลง 35.80 จุด, -0.13% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 22,378.46 จุด เพิ่มขึ้น 201.44 จุด, +0.91% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,701.43 จุด เพิ่มขึ้น 14.88 จุด, +0.88%

นายเจอโรม พาวเวล กล่าวเมื่อวานนี้ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

"อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบตามมาตรฐานในช่วงที่ผ่านมา และอยู่ต่ำกว่าเพียงเล็กน้อยจากระดับที่เป็นกลางต่อเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ได้กระตุ้น หรือชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจ" นายพาวเวลกล่าวที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในขณะนี้อยู่ที่ระดับ 2.00-2.25% และมีการคาดการณ์กันว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนธ.ค. ก่อนที่จะปรับขึ้นอีก 3 ครั้งในปีหน้า และปรับขึ้น 1 ครั้งในปี 2563

หนังสือพิมพ์นิวยอร์ค ไทม์สรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของการทำสงครามการค้าเป็นเวลานานกับจีนที่จะมีต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งความกังวลดังกล่าวอาจทำให้ปธน.ทรัมป์มีท่าทีประนีประนอมในการเจรจาการค้ากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ที่อาร์เจนตินาในปลายสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์และปธน.สี จิ้นผิง มีกำหนดหารือและรับประทานอาหารเย็นร่วมกันในวันเสาร์นี้ โดยปธน.ทรัมป์จะเน้นเจรจาในประเด็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา, กรรมสิทธิ์ของบริษัทสหรัฐในจีน และการตั้งกำแพงการค้าทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับภาษี

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ของญี่ปุ่น ขยายตัว 3.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 10 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ของญี่ปุ่นได้รับแรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคใช้จ่ายเงินในการซื้อเชื้อเพลิง รถยนต์ ยารักษาโรค และเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนที่แข็งแกร่งนั้น จะช่วยหนุนเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้กับมาขยายตัวได้ดีอีกครั้ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ