ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) จากแรงขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และธนาคาร โดยได้รับแรงกดดันจากการที่ทางการจีนเผยข้อมูลภาคการผลิตที่ขยายตัวอ่อนแรงที่สุดในรอบสองปี นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าสหรัฐและจีนจะยุติข้อพิพาทการค้าที่การประชุมสุดยอด G20 ช่วงสุดสัปดาห์นี้ได้หรือไม่
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,980.24 จุด ลดลง 58.71 จุด หรือ -0.83% ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ดัชนีปรับตัวลง 0.4% และร่วงลง 2.1% ในรอบเดือน
ดัชนี FTSE 100 ปิดท้ายเดือนพ.ย. ด้วยการปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยร่วงลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 7,000 จุดอีกครั้ง หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย. อยู่ที่ระดับ 50 ซึ่งลดลงจากระดับ 50.2 ในเดือนต.ค. บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง
นักวิเคราะห์ระบุว่า การชะลอตัวของภาคการผลิตจีนไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนัก เมื่อพิจารณาจากการที่จีนกำลังมีความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ แต่ข้อมูลนี้จะยิ่งเป็นการสร้างแรงกดดันต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มากขึ้น ในการที่จะพยายามเจรจายุติข้อพิพาทการค้าระหว่างสองประเทศกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตาการเจรจาการค้าระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี ในการหารือนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โดยปธน.ทรัมป์มีกำหนดรับประทานอาหารค่ำร่วมกับปธน.สี ในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ผู้นำทั้งสองจะเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างกัน โดยปธน.ทรัมป์จะเจรจาในประเด็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา กรรมสิทธิ์ของบริษัทสหรัฐในจีน และการตั้งกำแพงการค้าทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับภาษี
ด้านเงินปอนด์อ่อนค่าลง อันเนื่องมาจากดอลลาร์แข็งค่า และจากความกังวลว่าข้อตกลง Brexit ของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ จะสามารถผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาในเดือนหน้าหรือไม่
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ต่างร่วงลงถ้วนหน้า จากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน เนื่องจากจีนถือเป็นผู้บริโภคทรัพยากรรายใหญ่ของโลก
หุ้นอันโตฟากัสตาปิดร่วง 4.3% บีเอชพี ลบ 1.9% ริโอ ทินโต ลบ 1.7% และเกลนคอร์ ลดลง 1.1%
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงถ่วงตลาดเช่นกัน นำโดยเอชเอสบีซี ปิดลบ 0.7% และลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ลดลง 1.4%
ขณะที่หุ้นบวกนำโดย แกล็กโซสมิทไคล์น บริษัทยารายใหญ่ พุ่งขึ้น 1.50% เซ็นทรีก้าบวก 1.18% และไชร์บวก 1.00%