ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ ขณะนลท.จับตา"ทรัมป์-สี จิ้นผิง"เจรจาปลดล็อกการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday December 1, 2018 05:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา สุดสัปดาห์นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.61 จุด หรือ -0.17% ปิดที่ 357.49 จุด ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ดัชนีปรับตัวขึ้น 1% แต่ลดลง 1.1% ในรอบเดือนพ.ย.

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,980.24 จุด ลดลง 58.71 จุด หรือ -0.83% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,257.24 จุด ลดลง 40.99 จุด หรือ -0.36% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,003.92 จุด ลดลง 2.33 จุด หรือ -0.05%

ทั้งนี้ นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตาการเจรจาการค้าระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี ในการหารือนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โดยปธน.ทรัมป์มีกำหนดรับประทานอาหารค่ำร่วมกับปธน.สี ในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ผู้นำทั้งสองจะเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างกัน โดยปธน.ทรัมป์จะเจรจาในประเด็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา กรรมสิทธิ์ของบริษัทสหรัฐในจีน และการตั้งกำแพงการค้าทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับภาษี

โดยหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงในการซื้อท้ายวันสุดท้ายของเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเดือนที่สองติดต่อกัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองชาติยักษ์ใหญ่

หุ้นกลุ่มยานยนต์ร่วงลงถ่วงตลาด ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองและธนาคารปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยหุ้นบริษัทเหมืองแร่ถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคทรัพยากรธรรมชาติรายใหญ่ของโลก หลังจากที่ทางการจีนเผยข้อมูลภาคการผลิตที่ขยายตัวช้าที่สุดในรอบสองปี

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย. อยู่ที่ระดับ 50 ซึ่งลดลงจากระดับ 50.2 ในเดือนต.ค. บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง

นักวิเคราะห์ระบุว่า การชะลอตัวของภาคการผลิตจีนไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนัก เมื่อพิจารณาจากการที่จีนกำลังมีความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ แต่ข้อมูลนี้จะยิ่งเป็นการสร้างแรงกดดันต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มากขึ้น ในการที่จะพยายามเจรจายุติข้อพิพาทการค้าระหว่างสองประเทศกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ด้านเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.1316 ดอลลาร์ จาก 1.1394 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี ด้านเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2746 ดอลลาร์ จาก 1.2788 ดอลลาร์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อ หรือดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซน เพิ่มขึ้นเพียง 2.0% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดีดตัวสู่ระดับ 2.2% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดพลังงานและอาหาร และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ให้ความสำคัญ ชะลอตัวสู่ระดับ 1.1% เมื่อเทียบรายปี ในเดือนพ.ย. จากระดับ 1.2% ในเดือนต.ค.

ทางด้าน ECB ตั้งเป้าหมายเงินเฟ้อให้ "อยู่ใกล้ แต่ไม่เกินระดับ 2%" โดย ECB คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะมีค่าเฉลี่ย 1.7% จนถึงปี 2563

หุ้นกลุ่มเหมืองร่วงลง นำโดยหุ้นอันโตฟากัสตาที่ปิดร่วง 4.3% บีเอชพี ลบ 1.9% ริโอ ทินโต ลบ 1.7% และเกลนคอร์ ลดลง 1.1%

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงเช่นกัน โดยเอชเอสบีซี ปิดลบ 0.7% บังโค ซานตานเดร์ ลบ 0.7% ลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ลดลง 1.4%

หุ้นกลุ่มยานยนต์ปรับตัวลง บีเอ็มดับเบิลยู ลดลง 0.9% และเรโนลต์ ลดลง 1.1% ขณะที่โฟล์คสวาเกน พลิกกลับมาขยับขึ้นได้ 0.1%

ด้านหุ้นบริษัทยาต่างปรับตัวขึ้น โนโว นอร์ดิสค์ พุ่ง 2.3% แกล็กโซสมิทไคล์น บวก 1.5% และซาโนฟี่ บวก 1.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ