ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 199.62 จุด รับความหวัง"ทรัมป์-สี"เจรจาปลดล็อกการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday December 1, 2018 06:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าการหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้นั้น จะเป็นไปด้วยดี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,538.46 จุด บวก 199.62 จุด หรือ +0.79% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,760.17 จุด เพิ่มขึ้น 22.41 จุด หรือ +0.82% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,330.54 จุด เพิ่มขึ้น 57.45 จุด หรือ +0.79%

สำหรับในรอบสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 5.2% ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 4.9% และ Nasdaq พุ่ง 5.6% โดยทั้ง S&P 500 และ Nasdaq ทำสถิติปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบสัปดาห์ นับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2554 หรือเกือบเจ็ดปี ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2559

ขณะที่ตลอดทั้งเดือนพ.ย. ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 1.7%, ดัชนี S&P 500 พุ่ง 1.8% และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น 0.3%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ ได้รับแรงหนุนจากการแสดงความเห็นที่เป็นบวกของเจ้าหน้าที่สหรัฐเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ผู้นำสหรัฐและจีนจะตกลงกันได้ด้วยดีในระหว่างการหารือการค้า นอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ที่อาร์เจนตินา สุดสัปดาห์นี้

นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ แสดงความหวังว่า การเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในวันเสาร์นี้ จะประสบผลสำเร็จ

ผู้แทนการค้าสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่การประชุม G20 ในบัวโนสไอเนส ว่า เขาจะแปลกใจมากหากการรับประทานอาหารค่ำระหว่างปธน.ทรัมป์และปธน.สี ไม่ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ วอลล์สตรีท เจอร์นัล ยังรายงานด้วยว่า จีนอาจกลับมาซื้อสินค้าเกษตรและพลังงานจากสหรัฐอีกครั้ง หากสหรัฐยอมเลื่อนกำหนดเวลาที่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนออกไป

คำกล่าวของนายไลท์ไฮเซอร์หนุนดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น หลังจากที่ลดลงไปถึง 72 จุดในช่วงเปิดตลาด

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง ในการหารือนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โดยปธน.ทรัมป์มีกำหนดรับประทานอาหารค่ำร่วมกับปธน.สี จิ้นผิง ในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ผู้นำทั้งสองจะเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างกัน โดยปธน.ทรัมป์จะเจรจาในประเด็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา กรรมสิทธิ์ของบริษัทสหรัฐในจีน และการตั้งกำแพงการค้าทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับภาษี

โดยก่อนหน้านี้ นักลงทุนวิตกว่าการประชุมระหว่างปธน.ทรัมป์และปธน.สี จะมีบรรยากาศที่ตึงเครียด เนื่องจากหนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานว่า นายปีเตอร์ นาวาร์โร ซึ่งเป็นที่ปรึกษานโยบายการค้าประจำทำเนียบขาว จะเข้าร่วมในการประชุมดังกล่าว โดยนายนาวาร์โรนับเป็นที่ปรึกษานโยบายการค้าที่มีจุดยืนแข็งกร้าวต่อจีน โดยเขาเคยกล่าวในช่วงต้นเดือนนี้ว่า การทำข้อตกลงการค้ากับจีน จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของปธน.ทรัมป์ ไม่ใช่เงื่อนไขของตลาดวอลล์สตรีท

การมีนายนาวาร์โรเข้าร่วมการประชุมพร้อมกับปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง ได้ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกว่าอาจทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในการเจรจาดังกล่าว

ขณะเดียวกัน นายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินเนอาโพลิส กล่าวว่า เฟดไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ

นายแคชแครีเตือนว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป มีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย

ประธานเฟดมินเนอาโพลิสแนะนำให้เฟดมีท่าทีรอดูต่อไป โดยให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกรณีที่เงินเฟ้อพุ่งขึ้น หรือค่าจ้างดีดตัวขึ้น

นอกจากนี้ นายแคชแครียังระบุว่า อัตราดอกเบี้ยกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด

นายแคชแครีคาดการณ์ด้วยว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะไม่ขยายตัวเกิน 2% มากนักในระยะยาว

นายแคชแครีไม่ได้เป็นสมาชิกที่มีสิทธิลงคะแนนในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ในปีนี้ และปีหน้า แต่ในปีที่แล้ว นายแคชแครีลงคะแนนเสียงคัดค้านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้ง 3 ครั้ง โดยระบุว่า เฟดยังไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อไม่ได้สร้างปัญหา

หุ้นที่มีความอ่อนไหวต่อการค้าปรับตัวขึ้น โดยหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ทะยาน 4.2% เป็นแกนนำหุ้นบวกในดาวโจนส์ ด้านหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วง 2.1% เป็นแกนนำหุ้นลบ หลังจากที่มีรายงานว่า เฟดกำลังเร่งตรวจสอบกรณีที่ผู้บริหารของโกลด์แมน แซคส์ ได้ฉ้อโกงมาเลเซียในกรณีออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการจัดตั้งกองทุน 1MDB

รายงานระบุว่า การตรวจสอบที่มุ่งเน้นไปที่แนวทางปฏิบัติของโกลด์แมน แซคส์ และบุคลากรของธนาคารนั้น มีความคืบหน้ามากขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เฟดได้สัมภาษณ์พนักงานทั้งในอดีตและปัจจุบันของโกลด์แมน แซคส์ เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ แม้ว่าเฟดไม่มีอำนาจในการดำเนินคดีอาญา แต่ก็สามารถใช้บทลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีอื้อฉาวทางการเงินได้

ขณะที่หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มอุตสาหกรรมของดัชนี S&P 500 ต่างปรับตัวขึ้น โดยหุ้นสาธารณูปโภค พุ่ง 1.54% หุ้นกลุ่มสุขภาพบวก 1.08% ด้านหุ้นกลุ่มพลังงานลดลง 0.24% โดยเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวที่ปรับตัวลดลงในการซื้อขายวันศุกร์

ด้านหุ้นเทคโนโลยีพุ่ง 1.06% และหนุนดัชนี Nasdaq ให้ปรับตัวขึ้น

ราคาหุ้นของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ ซึ่งเป็นเครือโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ดิ่งลง 5.6% หลังบริษัทเปิดเผยว่า แฮกเกอร์ได้ลักลอบเจาะฐานข้อมูลการสำรองห้องพักของลูกค้าโรงแรมสตาร์วูด ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือ ส่งผลให้มีการรั่วไหลของข้อมูลลูกค้าราว 500 ล้านราย โดยแมริออทระบุว่า การลักลอบเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 2557


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ