ดาวโจนส์ล่วงหน้าพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมีแนวโน้มทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในคืนนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ประสบความสำเร็จในการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาทการค้าชั่วคราว หลังจากที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้พบปะหารือกันนอกรอบการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ณ เวลา 15.27 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า พุ่งขึ้น 521 จุด หรือ 2.04% แตะที่ระดับ 26,060 จุด
ปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง เห็นพ้องกันให้เลื่อนกำหนดระยะเวลาที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกไป 90 วัน จากกำหนดเวลาเดิมในวันที่ 1 ม.ค.2562 เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองฝ่ายได้เดินหน้าเจรจายุติข้อพิพาทการค้าระหว่างกันต่อไป
ในแถลงการณ์ซึ่งทำเนียบขาวเผยแพร่ออกมาหลังเสร็จสิ้นการหารือระหว่างผู้นำจีน-สหรัฐ ระบุว่า กำหนดการเรียกเก็บภาษีจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ม.ค.2562 นี้ จะถูกเลื่อนออกไป 90 วัน
"หากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ยังหาข้อตกลงกันไม่ได้ ก็จะมีการขึ้นภาษีจาก 10% เป็น 25%" ทำเนียบขาวระบุ
ทำเนียบขาวยังเปิดเผยอีกว่า จีนได้รับปากที่จะสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐ ทั้งผลิตภัณฑ์จากภาคการเกษตร, พลังงาน, สินค้าอุตสาหกรรม และอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก
ด้านสถานีโทรทัศน์ของการทางการจีนรายงานว่า หลังจากวันที่ 1 ม.ค.2562 ไปแล้ว จะไม่มีการเรียกเก็บภาษีใดๆเกิดขึ้นอีก และการเจรจาการค้าระหว่างทั้งสองประเทศก็จะดำเนินต่อไป
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ และปธน.สีได้พูดคุยกันระหว่างการรับประทานอาหารค่ำที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินาในช่วงค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่จากรัฐบาลจีนได้ออกมาเปิดเผยว่า วาระสำคัญที่จีนจะหยิบยกขึ้นมาหารือกันสหรัฐ คือการโน้มน้าวให้รัฐบาลสหรัฐ ยอมระงับแผนปรับขึ้นภาษีนำเข้าอีก 15% ต่อสินค้าจีนในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์