ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และความไม่แน่ใจต่อแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,921.84 จุด ลดลง 100.92 จุด หรือ -1.44%
สถานการณ์ Brexit ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นลอนดอน โดยรัฐสภาอังกฤษกำลังดำเนินการอภิปรายเป็นเวลา 5 วันต่อข้อเสนอของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เกี่ยวกับข้อตกลง Brexit ที่นางเมย์ทำไว้กับ EU ก่อนที่รัฐสภาจะลงมติต่อข้อตกลง Brexit ในวันอังคารหน้า
นอกจากนี้ นักลงทุนยังไม่มั่นใจผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แต่งตั้งนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เป็นหัวหน้าคณะเจรจาการค้าฝ่ายสหรัฐ เนื่องจากนายไลท์ไฮเซอร์นับเป็นผู้ที่มีจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อจีน
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมัน ก่อนที่การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ โดยหุ้นบีพี ร่วงลง 1.6% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดิ่งลง 2%
ส่วนหุ้นเหมืองแร่ร่วงลงเช่นกัน นำโดยหุ้น Evraz ร่วงลง 2%
สำหรับหุ้นตัวอื่นๆที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ หุ้นธนาคารเอชเอสบีซี ร่วงลง 2% หุ้นไดเร็กไลน์ อินชัวรันซ์ ลดลง 0.6% และหุ้นฮาร์เกรฟ แลนส์ดาวน์ ร่วงลงกว่า 3%