ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลง หลังจีนเผยยอดส่งออกชะลอตัวเกินคาด,วิตกสงครามการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 10, 2018 12:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ หลังจากที่จีนเปิดเผยยอดส่งออกที่อ่อนแรงเกินคาดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นทั่วภูมิภาคยังเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดดิ่งลงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเตือนว่า สหรัฐอาจเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้น หากทั้งสองประเทศไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากันได้

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,191.23 จุด ลดลง 487.45 จุด, -2.25% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 25,696.89 จุด ลดลง 366.87 จุด, -1.41% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,664.95 จุด ลดลง 15.59 จุด, -0.93%

สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานเมื่อวันเสาร์ว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ย.ขยายตัว 10.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ชะลอตัวลงจากเดือนต.ค.ซึ่งขยายตัว 20.1% ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนพ.ย.ขยายตัวเพียง 7.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ชะลอตัวลงจากเดือนต.ค.ซึ่งขยายตัวอย่างแข็งแกร่งถึง 26.3%

ส่วนยอดเกินดุลการค้าของจีนในเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 3.0604 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.3363 แสนล้านหยวน

ขณะเดียวกัน สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยในวันเดียวกันว่า จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐในเดือนพ.ย.ที่ระดับ 3.555 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.178 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.

ส่วนในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย.ปีนี้ จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐที่ระดับ 2.9352 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.5126 แสนล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ประเด็นที่จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐจำนวนมากนั้น เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สหรัฐไม่พอใจ และนำไปสู่การใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ในขณะที่จีนก็ตอบโต้สหรัฐในลักษณะเดียวกัน

ยอดส่งออกที่อ่อนแอของจีนเป็นสัญญาณบ่งชี้มากขึ้นถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และยิ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้กับรัฐบาลจีนก่อนการเจรจาการค้ากับสหรัฐ

นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ยังได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลง 558.72 จุด หรือ -2.24% เมื่อวันศุกร์ที่ 7 ธ.ค. เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากนายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษานโยบายการค้าประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า สหรัฐจะปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน หากทั้งสองประเทศไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการเจรจาการค้าในช่วงเวลา 90 วัน โดยความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าได้สกัดปัจจัยบวกจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ