ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทรุดตัวลงเกือบ 400 จุด หลุดระดับ 23,000 จุด หลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 00.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 22,946.58 จุด ลดลง 377.08 จุด หรือ 1.62%
ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในเดือนนี้ นับตั้งแต่ที่สหรัฐเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปี 2474 โดยได้ดิ่งลงแล้ว 8% ขณะที่ทรุดตัวลงกว่า 1,250 จุดในสัปดาห์นี้
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้
นอกจากนี้ เฟดยังได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีหน้า โดยปรับขึ้นอีก 2 ครั้ง ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นเพียง 1 ครั้ง หรืออาจจะไม่ปรับขึ้นเลย
ขณะเดียวกัน เฟดได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 3.0% จากเดิมที่ 3.1% และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าสู่ระดับ 2.3% จากเดิมที่ 2.5%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 214,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 216,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 2,750 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ส่งสัญญาณว่าเขาอาจจะวีโต้ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่สภาคองเกรสให้การอนุมัติ เนื่องจากเขาจะตอบโต้พรรคเดโมแครตที่ไม่ให้ความสำคัญต่อการจัดสรรงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก
"พวกเดโมแครต ซึ่งรู้ว่ากำแพงมีความจำเป็นต่อการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน กำลังใช้การเมืองมานำหน้าประเทศ แล้วพวกเขาก็จะเริ่มรู้ว่าผมจะไม่ลงนามในร่างกฎหมายใดๆของพวกเขา ซึ่งรวมทั้งโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากจะมีการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนเป็นอย่างดี ขอให้สหรัฐเป็นผู้ชนะ" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
นอกจากนี้ บรรดาแกนนำของพรรครีพับลิกันยังได้ยกเลิกการแถลงข่าวในวันนี้ หลังจากไม่สามารถยืนยันได้ว่าปธน.ทรัมป์จะลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณหรือไม่
เมื่อวานนี้ วุฒิสภาสหรัฐลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้การอนุมัติต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณในการดำเนินงานเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์
วุฒิสภาได้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้การอนุมัติต่อไป ก่อนเส้นตายเวลาเที่ยงคืนวันศุกร์นี้ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลาเที่ยงวันของวันเสาร์นี้ตามเวลาไทย
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังไม่ได้แสดงท่าทีบ่งชี้ว่าเขาจะลงนามในร่างกฎหมายฉบับนี้หรือไม่ เนื่องจากไม่ได้บรรจุงบประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกตามที่เขาต้องการ
หากปธน.ทรัมป์ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าว จะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณในการดำเนินงานจนถึงวันที่ 8 ก.พ.ปีหน้า