ดาวโจนส์พุ่งกว่า 200 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณทบทวนนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 21, 2018 22:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 200 จุดในวันนี้ หลังนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดอาจทำการทบทวนนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

ณ เวลา 22.28 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 23,126.81 จุด เพิ่มขึ้น 267.21 จุด หรือ 1.17%

ถึงแม้ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นในวันนี้ แต่ก็มีแนวโน้มปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในเดือนนี้ นับตั้งแต่ที่สหรัฐเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปี 2474 โดยได้ดิ่งลงแล้วมากกว่า 9% ในเดือนนี้ ขณะที่ทรุดตัวลงกว่า 800 จุดในสัปดาห์นี้ และร่วงลง 6% จากต้นปีนี้

นายวิลเลียมส์กล่าวว่า เฟดอาจทำการทบทวนนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดงบดุลในปีหน้า หากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง

"เรากำลังฟังตลาด และพิจารณาข้อมูลที่เราได้รับ รวมทั้งพร้อมที่จะทบทวนมุมมองของเรา ขณะที่มีความเสี่ยงว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวต่อไป" นายวิลเลียมส์กล่าว

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลงในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% และส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีหน้า โดยปรับขึ้นอีก 2 ครั้ง ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นเพียง 1 ครั้ง หรืออาจจะไม่ปรับขึ้นเลย

ขณะเดียวกัน เฟดได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 3.0% จากเดิมที่ 3.1% และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าสู่ระดับ 2.3% จากเดิมที่ 2.5%

นักลงทุนจับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดพบกับสมาชิกวุฒิสภาที่สังกัดพรรคพรรครีพับลิกันที่ทำเนียบขาวในวันนี้ ก่อนถึงเส้นตายเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่หน่วยงานรัฐบาลต้องถูกปิดการดำเนินงาน เนื่องจากขาดงบประมาณ หรือเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์

การประชุมดังกล่าวจะมีขึ้นในเวลา 10.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.30 น.ตามเวลาไทย

นางซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์จะไม่เดินทางออกจากกรุงวอชิงตัน ดีซี ถ้าหากสภาคองเกรสไม่ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ซึ่งจะส่งผลให้หน่วยงานรัฐบาลต้องถูกปิดการดำเนินงาน

ทั้งนี้ หากสภาคองเกรสไม่ให้การอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณ และไม่มีการส่งต่อให้ปธน.ทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย ก่อนเส้นตายเวลาเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลาเที่ยงวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย หน่วยงานรัฐบาลก็จะเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์

ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์มีกำหนดไปพักผ่อนเป็นเวลา 16 วันที่รีสอร์ท Mar-a-Lago ของเขาที่เมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา

ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ขู่ว่า เขาจะไม่ลังเลที่จะทำให้หน่วยงานรัฐบาลต้องถูกปิดการดำเนินงาน ถ้าหากสมาชิกพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาปฏิเสธที่จะผ่านร่างกฎหมายงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรก่อนหน้านี้

"ท่านวุฒิฯมิตช์ แมคคอนเนลล์ควรจะต่อสู้เพื่อความมั่นคงตามแนวชายแดน และการสร้างกำแพง เหมือนกับที่เขาต่อสู้เพื่อเรื่องอื่น เขาจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคเดโมแครต แต่ก็ตามที่ได้เห็นในสภาผู้แทนราษฎร เรื่องดีๆก็ได้เกิดขึ้น" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

"ถ้าเดโมแครตปฏิเสธที่จะอนุมัติงบประมาณ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ซึ่งจะกินเวลานานมาก ชาวสหรัฐไม่ต้องการเปิดพรมแดน และคดีอาชญากรรม" ปธน.ทรัมป์ระบุ

ทั้งนี้ สหรัฐใกล้เผชิญภาวะชัตดาวน์ในเที่ยงคืนนี้ หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐส่งสัญญาณชัดเจนที่จะไม่อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณที่เพิ่งผ่านการรับรองจากสภาผู้แทนราษฎร

"ทุกคนต่างก็รู้ว่าร่างกฎหมายจากสภาผู้แทนราษฎรจะไม่ผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภา" นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภากล่าว

เมื่อวานนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 217 ต่อ 185 เสียง ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณในการดำเนินงานเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ได้บรรจุงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ตามความต้องการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ก่อนหน้านี้ วุฒิสภาสหรัฐลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ แต่ในร่างกฎหมายงบประมาณของวุฒิสภาไม่มีการบรรจุงบประมาณการสร้างกำแพงตามที่ปธน.ทรัมป์ต้องการ

ร่างกฎหมายงบประมาณฉบับของสภาผู้แทนราษฎรจะถูกส่งกลับมาให้วุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่งในวันนี้ ก่อนที่จะส่งต่อให้ปธน.ทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยหากปธน.ทรัมป์ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าว ก็จะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณในการดำเนินงานจนถึงวันที่ 8 ก.พ.ปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ