ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 414.23 จุด วิตกชัตดาวน์, เศรษฐกิจชะลอตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday December 22, 2018 07:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐอาจต้องถูกปิดการดำเนินงาน เนื่องจากขาดงบประมาณ หรือเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ รวมทั้งความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,445.37 จุด ร่วงลง 414.23 จุด หรือ -1.81% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,416.62 จุด ลดลง 50.80 จุด หรือ -2.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,332.99 จุด ลดลง 195.41 จุด หรือ -2.99%

ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวในแดนบวกระหว่างการซื้อขายช่วงแรก ขานรับคำพูดของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ที่ออกมาเปิดเผยว่า เฟดอาจทำการทบทวนนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

นายวิลเลียมส์กล่าวว่า เฟดอาจทำการทบทวนนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดงบดุลในปีหน้า หากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง

"เรากำลังฟังตลาด และพิจารณาข้อมูลที่เราได้รับ รวมทั้งพร้อมที่จะทบทวนมุมมองของเรา ขณะที่มีความเสี่ยงว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวต่อไป" นายวิลเลียมส์ระบุ

อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในเวลาต่อมา ท่ามกลางแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐอาจต้องถูกปิดการดำเนินงาน เนื่องจากขาดงบประมาณ หรือเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์

ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความขู่ว่า เขาจะไม่ลังเลที่จะทำให้หน่วยงานรัฐบาลต้องถูกปิดการดำเนินงาน ถ้าหากสมาชิกพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาปฏิเสธที่จะผ่านร่างกฎหมายงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรก่อนหน้านี้

"ท่านวุฒิฯมิตช์ แมคคอนเนลล์ควรจะต่อสู้เพื่อความมั่นคงตามแนวชายแดน และการสร้างกำแพง เหมือนกับที่เขาต่อสู้เพื่อเรื่องอื่น เขาจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคเดโมแครต แต่ก็ตามที่ได้เห็นในสภาผู้แทนราษฎร เรื่องดีๆก็ได้เกิดขึ้น" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

"ถ้าเดโมแครตปฏิเสธที่จะอนุมัติงบประมาณ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ซึ่งจะกินเวลานานมาก ชาวสหรัฐไม่ต้องการเปิดพรมแดน และคดีอาชญากรรม" ปธน.ทรัมป์ระบุ

ทั้งนี้ สหรัฐใกล้เผชิญภาวะชัตดาวน์ หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐส่งสัญญาณชัดเจนที่จะไม่อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณที่เพิ่งผ่านการรับรองจากสภาผู้แทนราษฎร

"ทุกคนต่างก็รู้ว่าร่างกฎหมายจากสภาผู้แทนราษฎรจะไม่ผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภา" นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภากล่าว

เมื่อพฤหัสบดีที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้มีมติด้วยคะแนนเสียง 217 ต่อ 185 เสียง ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณในการดำเนินงานเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ได้บรรจุงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ตามความต้องการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ก่อนหน้านี้ วุฒิสภาสหรัฐลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ แต่ในร่างกฎหมายงบประมาณของวุฒิสภาไม่มีการบรรจุงบประมาณการสร้างกำแพงตามที่ปธน.ทรัมป์ต้องการ

ร่างกฎหมายงบประมาณฉบับของสภาผู้แทนราษฎรจะถูกส่งกลับมาให้วุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่งในวันนี้ ก่อนที่จะส่งต่อให้ปธน.ทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยหากปธน.ทรัมป์ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าว ก็จะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณในการดำเนินงานจนถึงวันที่ 8 ก.พ.ปีหน้า

ตลาดยังถูกกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ที่ระดับ 3.4% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.5% และต่ำกว่าระดับ 4.2% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2557 หลังจากแตะระดับ 2.2% ในไตรมาส 1 โดยการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ได้รับผลกระทบจากการลดลงของการใช้จ่ายของผู้บริโภค และการส่งออก

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ รวมถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน

นอกจากนี้ การดิ่งลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังเป็นแรงฉุดให้ตลาดร่วงลงด้วยเช่นกัน นำโดยเฟซบุ๊ก และเน็ตฟลิกซ์ ที่ปรับตัวลงมากกว่า 5% เมื่อคืนนี้

ด้านหุ้นไนกี้ อิงค์ พุ่งขึ้น 7.3% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการสูงกว่าคาดในไตรมาส 3 โดยไนกี้ระบุว่า บริษัทมีกำไรที่ระดับ 52 เซนต์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 46 เซนต์/หุ้น ขณะเดียวกัน บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 9.37 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.18 พันล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ