ดาวโจนส์เปิดบวก 74.79 จุด นักลงทุนเริ่มคลายวิตกกระแสเทขายหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 28, 2018 21:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 74.79 จุดในช่วงเปิดตลาดวันนี้ ลุ้นปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังจากที่ตลาดปิดในแดนบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากมีรายงานว่า คณะผู้แทนสหรัฐจะเดินทางไปยังประเทศจีนในวันที่ 7 ม.ค.ปีหน้า เพื่อเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่ของจีน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นอีกครั้ง เนื่องจากเริ่มคลายกังวลหลังเกิดเหตุการณ์เทขายหุ้นติดต่อกันเมื่อไม่นานมานี้ด้วย

ณ เวลา 21:32 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 23,213.61 จุด เพิ่มขึ้น 74.79 จุด

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด โดยนายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันในเวลาต่อมาว่า จีนและสหรัฐมีแผนที่จะเจรจาการค้าในเดือนม.ค.ปีหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมเจรจากันแบบหน้าต่อหน้าครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ตกลงที่จะสงบศึกการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเป็นเวลา 90 วันเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ รัฐบาลจีนได้อนุญาตให้มีการนำเข้าข้าวจากสหรัฐ ท่ามกลางข้อพิพาทการค้าระหว่างสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้

ความเคลื่อนไหวล่าสุดถือเป็นสัญญาณครั้งใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า จีนต้องการที่จะลดความตึงเครียดด้านการค้ากับสหรัฐ ขณะที่เศรษฐกิจของจีนเริ่มชะลอตัว อันเนื่องมาจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ซบเซาลง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ที่หน่วยงานสหรัฐถูกปิดดำเนินงานเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ประกาศเลื่อนการประชุมพิจารณางบประมาณชั่วคราวออกไปเป็นวันจันทร์ที่ 31 ธ.ค. หลังจากที่การประชุมยังไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกตามคำเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ยื่นของบประมาณสำหรับก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นแคมเปญหาเสียงหลักของปธน.ทรัมป์ในปี 2559 แต่ทางฝั่งพรรคเดโมแครตยอมอนุมัติงบประมาณเพียง 1.3 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น โดยระบุว่า การสร้างกำแพงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการยกระดับการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ