ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 746.94 จุด ขานรับตัวเลขจ้างงานสดใส,เฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday January 5, 2019 06:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 700 จุดเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกันตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ และความหวังที่ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีความคืบหน้า นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดเช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,433.16 จุด พุ่งขึ้น 746.94 จุด หรือ +3.29% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,531.94 จุด เพิ่มขึ้น 84.05 จุด หรือ +3.43% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,738.86 จุด เพิ่มขึ้น 275.35 จุด หรือ +4.26%

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ ซึ่งสามารถชดเชยการร่วงลงของเมื่อวันพฤหัสบดีได้ โดยตลาดได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวในการประชุมประจำปีของสมาคมเศรษฐกิจอเมริกันที่รัฐแอตแลนตาเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยจะพิจารณาการปรับตัวของภาวะเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันนายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะไม่ลังเลที่จะเปลี่ยนแปลงแผนการปรับลดงบดุล หากการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน

นักลงทุนคาดหวังว่า ถ้อยแถลงของนายพาวเวลในครั้งนี้จะบ่งชี้ถึงการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย หลังจากที่เขาสร้างความตื่นตระหนกต่อตลาด ด้วยการระบุก่อนหน้านี้ว่า เฟดจะเดินหน้าการปรับลดงบดุล โดยจะปล่อยให้หลักทรัพย์หรือตราสารหนี้ที่เฟดถือครองอยู่ครบกำหนดอายุโดยไม่มีการนำเม็ดเงินไปซื้อหลักทรัพย์ใหม่

ขณะเดียวกันตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีความคืบหน้า หลังจากกระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ยืนยันว่า คณะผู้แทนของรัฐบาลสหรัฐจะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในวันที่ 7-8 ม.ค. เพื่อเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่จีน โดยทั้งสองฝ่ายจะหารือกันเกี่ยวกับแนวทางการบรรลุข้อตกลงเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาททางการค้า

นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของตัวเลขจ้างงานสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดเช่นกัน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 312,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 177,000 ตำแหน่ง

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดี สืบเนื่องมาจากการปรับลดคาดการณ์รายได้ของบริษัทแอปเปิล อิงค์ ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิลปิดตลาดพุ่งขึ้น 4.3% หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 4.7% หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 5.01% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 5.4% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 9.7% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 4.6% หุ้น Nvidia ทะยานขึ้น 6.4% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี เพิ่มขึ้น 5.5% หุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 6.1% และหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 4.5%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นขานรับความหวังในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 5.2% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 5.4% หุ้น 3M เพิ่มขึ้น 4.1% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 2.1% หุ้นอีตัน คอร์ป พุ่งขึ้น 2.8% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 2.1%

หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 5.8% หลังจากที่ราคาหุ้นดิ่งลงเกือบ 7% เมื่อวันพฤัสบดี อันเนื่องมาจากการที่เทสลาได้เปิดเผยตัวเลขยอดขายในไตรมาส 4 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ พร้อมกับประกาศลดราคารถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Model S, Model X และ Model 3

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 1% เมื่อวานนี้ โดยธนาคารกลางจีนคาดหวังว่ามาตรการปรับลด RRR ในครั้งนี้จะทำให้มีการระบายเงินสดจำนวน 8 แสนล้านหยวนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และช่วยผ่อนคลายปัญหาสภาพคล่องตึงตัวในช่วงเทศกาลตรุษจีน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ