ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 5.97 จุด วิตกชัตดาวน์,ข้อมูลเศรษฐกิจชะลอตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday January 12, 2019 07:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์) ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเกี่ยวกับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,995.95 จุด ลดลง 5.97 จุด หรือ -0.02% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6971.48 ลดลง 14.59 จุด หรือ -0.21% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,596.26 จุด ลดลง 0.38 จุด หรือ -0.01%

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงลงเกือบ 200 จุดระหว่างการซื้อขายเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ปิดตลาดในแดนบวกมาติดต่อกัน 5 วันทำการ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐ หลังทำเนียบขาวและสภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นเรื่องการจัดสรรงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ที่ลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากทรงตัวในเดือนพ.ย.

ขณะเดียวกันนักลงทุนยังมีความวิตกกังวลต่อเศรษฐกิจจีน หลังจากที่บริษัทแอปเปิล อิงค์ประกาศปรับลดคาดการณ์รายได้ โดยระบุถึงยอดขาย iPhone ที่ซบเซาในจีน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทสตาร์บัคจะเป็นบริษัทต่อจากแอปเปิลที่จะปรับลดคาดการณ์รายได้ จากยอดขายที่ตกต่ำในจีน

ภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐดำเนินมา 21 วันในขณะนี้ เทียบเท่ากับสถิติยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐในสมัยของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน โดยเริ่มต้นในวันที่ 15 ธ.ค.2538

ทั้งนี้ ภาวะชัตดาวน์ครั้งล่าสุดในสหรัฐได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงพ้นเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 21 ธ.ค.2561 ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเที่ยงวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค. 2561 ตามเวลาไทย และยืดเยื้อมาจนถึงขณะนี้ หลังจากสภาคองเกรสไม่อนุมัติร่างกฎหมายที่บรรจุงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ปธน.ทรัมป์ก็ได้ปฏิเสธที่จะลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณที่ไม่รวมงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกเช่นกัน

ปธน.ทรัมป์กล่าวอย่างชัดเจนว่า เขาพร้อมที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ หากการเจรจากับสภาคองเกรสไม่ประสบความคืบหน้าในการอนุมัติงบประมาณสำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก

การประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าว จะทำให้ปธน.ทรัมป์มีอำนาจออกกฎหมายพิเศษโดยไม่ต้องขอการอนุมัติจากสภาคองเกรสสำหรับการสร้างกำแพงโดยใช้งบประมาณที่มีการจัดสรรไว้แล้วสำหรับกองทัพ

อย่างไรก็ดี แรงลบในตลาดได้ถูกสกัดด้วยปัจจัยบวกจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งกรุงวอชิงตันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า เฟดสามารถยืดหยุ่นและมีความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเฟดสามารถปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินตามขอบเขตที่สมควร หากเศรษฐกิจมีแนวโน้มย่ำแย่ลง

"เมื่อพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันซึ่งอยู่ในระดับต่ำและสามารถควบคุมได้ เฟดก็สามารถอดทน และติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจด้วยความอดทนและระมัดระวัง" นายพาวเวลกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งกรุงวอชิงตัน

นายพาวเวลยังได้กล่าวถึงกรณีที่กรรมการหลายคนของเฟดได้ออกมาคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยนายพาวเวลกล่าวว่า "เรายังไม่มีแผนที่ตายตัวในเรื่องนี้ แต่หากเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ก็จะตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2562 จะต้องแข็งแกร่งมาก และผมเชื่อว่าแนวโน้มดังกล่าวยังคงมีโอกาสที่จะเกิดขึ้น"

หุ้นแอคติวิชั่น บลิซซาร์ด ร่วงลง 9.1% หลังจากที่บริษัทประกาศมอบกรรมสิทธิ์แฟรนไซส์เกม Destiny ให้กับบริษัท Bungie ซึ่งส่งผลให้ราคาเป้าหมายของหุ้นถูกปรับลงจาก 93 ดอลลาร์ มาเป็น 87 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นสตาร์บัคลดลง 0.7% หลังโกลแมน แซคส์ปรับลดคำแนะนำจากซื้อมาสู่ระดับเป็นกลาง

ด้านหุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) พุ่งขึ้นกว่า 7.1% หลังบริษัทเปิดเผยคาดการณ์รายได้ปี 2561 ดีกว่าที่เคยคาดไว้ พร้อมระบุว่ามีแนวโน้มขยายตัวต่อไปในปี 2562 นี้ ส่วนหุ้นเน็ตฟลิกซ์เพิ่มขึ้น 4% หลังจากได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนจากบริษัทหลักทรัพย์เรย์มอนด์ เจมส์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ