ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 162.94 จุด รับข่าวสหรัฐเล็งผ่อนคลายภาษีนำเข้าสินค้าจีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 18, 2019 06:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหารือกันเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยมีเป้าหมายที่จดลดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลงสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,370.10 จุด เพิ่มขึ้น 162.94 จุด หรือ +0.67% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,084.46 จุด เพิ่มขึ้น 49.77 จุด หรือ +0.71% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,635.96 จุด เพิ่มขึ้น 19.86 จุด หรือ +0.76%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นหลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งหล่าวว่า คณะทำงานของปธน.ทรัมป์กำลังหารือกันเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ซึ่งอาจจะเป็นการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทหรืออาจจะยกเลิกทั้งหมด

รายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัลระบุว่า นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเป็นผู้เสนอแนวทางดังกล่าว โดยมีเป้าหมายที่จะโน้มน้าวให้จีนยอมทำข้อตกลงการค้าทวิภาคี และเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งมีความอ่อนไหวต่อประเด็นการค้าระหว่างประเทศ พุ่งขึ้นขานรับข่าวดังกล่าว โดยหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 2.05% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.2% หุ้น 3M เพิ่มขึ้น 1.2% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 1.01% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก พุ่งขึ้น 1.8% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมพุ่งขึ้น 1.7%

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตยุทธปัจจัยด้านกลาโหมพุ่งขึ้น หลังจากปธน.ทรัมป์เปิดเผยแผนยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศด้วยขีปนาวุธรุ่นใหม่ โดยหุ้นนอร์ทธอร์ป กรัมแมน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอาวุธรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 3.3% และหุ้นล็อคฮีด มาร์ติน ดีดตัวขึ้น 2.4%

หุ้นอเมซอน ปรับตัวขึ้น 0.6% หลังจากมีรายงานว่าจำนวนผู้สมัครสมาชิก "Amazon Prime" พุ่งขึ้นแตะระดับ 101 ล้านคน

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 1.02% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ขยับขึ้น 0.12% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 0.5% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก เพิ่มขึ้น 0.6% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 0.4%

อย่างไรก็ตาม หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 4.4% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4 ที่ระดับ 80 เซนต์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 89 เซนต์/หุ้น ขณะที่รายได้อยู่ที่ 8.55 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.3 พันล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 213,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 220,000 ราย

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในคืนนี้ ซึ่งได้แก่ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐที่ล่วงเข้าสู่วันที่ 28 แล้ว ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งสถานการณ์การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยรายงานล่าสุดระบุว่า ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน รวมทั้งภาคธุรกิจของอังกฤษ ต่างออกมาเรียกร้องให้มีการจัดการลงประชามติ Brexit ครั้งใหม่ โดยจะใช้ชื่อว่า "People's Vote"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ