ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 51.74 จุด รับผลประกอบการสดใส,นลท.จับตาผลประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 30, 2019 06:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัท 3M และไฟเซอร์ อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq และดัชนี S&P500 ต่างก็ปิดในแดนลบ เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงก่อนที่บริษัทแอปเปิล อิงค์ จะเปิดเผยผลประกอบการ และจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,579.96 จุด เพิ่มขึ้น 51.74 จุด หรือ +0.21% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,640.00 จุด ลดลง 3.85 จุด หรือ -0.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,028.29 จุด ลดลง 57.39 จุด หรือ -0.81%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่สหรัฐ ซึ่งรวมถึงบริษัท 3M ผู้ผลิตเครื่องใช้สำนักงาน, ไฟเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่สุดของสหรัฐ และซีร็อกซ์ คอร์ป ผู้ผลิตเครื่องถ่ายเอกสาร และพริ้นเตอร์ของสหรัฐ

ทั้งนี้ หุ้น 3M พุ่งขึ้น 1.94% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 1.347 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.27 ดอลลาร์/หุ้น เพิ่มขึ้นจากระดับ 523 ล้านดอลลาร์ หรือ 85 เซนต์/หุ้นในไตรมาส 4/2560

ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ 3M ช่วยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 1.77% หุ้นโบอิ้ง เพิ่มขึ้น 0.5% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 1.63% และหุ้นอีตัน คอร์ป พุ่งขึ้น 2.9%

หุ้นซีร็อกซ์ ทะยานขึ้น 11.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 1.14 ดอลลาร์/หุ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.04 ดอลลาร์/หุ้น อันเนื่องมาจากมาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายในบริษัท

หุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 3.16% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 64 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 63 เซนต์/หุ้น

หุ้น PG&E ซึ่งเป็นบริษัทผลิตกระแสไฟฟ้ารายใหญ่สุดของสหรัฐ ปิดพุ่งขึ้น 16.5% หลังจาก PG&E ได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลาย ท่ามกลางภาระหนี้สินจำนวนมากที่เกิดจากไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียในปี 2560-2561 โดย PG&E ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลอนุมัติให้บริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนจำนวน 5.5 พันล้านดอลลาร์ในระหว่างการดำเนินกระบวนการล้มละลาย

หุ้นฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 5.05% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 17 เซนต์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 28 เซนต์/หุ้น ได้รับผลกระทบจากยอดขายที่ตกต่ำในสหรัฐ

ส่วนดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง ก่อนที่บริษัทแอปเปิล อิงค์ จะเปิดเผยผลประกอบการ โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 2.2% หุ้นอเมซอนดอทคอม ร่วงลง 2.7% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ลดลง 0.9% หุ้นแอปเปิล ลดลง 1.04% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 2.01% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.04% หุ้น Nvidia ดิ่งลง 4.64% และหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ลดลง 1.8%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และคาดว่าเฟดจะทำการตัดสินใจเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการยุติการปรับลดการถือครองพันธบัตรในงบดุลของเฟด

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ได้เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.2% ในเดือนพ.ย. และชะลอตัวลงจากระดับ 5.3% ของเดือนต.ค. ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 120.2 ในเดือนม.ค. จากระดับ 128.1 ในเดือนธ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 124.9

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.จากมาร์กิต และดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ