ดาวโจนส์ร่วงกว่า 150 จุด นักลงทุนขายทำกำไร หลังพุ่งกว่า 400 จุดวานนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 31, 2019 22:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงมากกว่า 150 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันขายทำกำไร หลังจากดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อวานนี้ ขานรับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ณ เวลา 21.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,854.51 จุด ลดลง 160.35 จุด หรือ 0.64%

ถึงแม้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวลงในวันนี้ แต่ดัชนี S&P 500 ก็ได้พุ่งขึ้น 7% ในเดือนนี้ และมีแนวโน้มทำสถิติทะยานขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่เดือนต.ค.2558 และถือเป็นเดือนม.ค.ที่ปรับตัวดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2532

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ประชุมเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด พร้อมกับย้ำว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป

ราคาหุ้นของบริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) พุ่งขึ้น 10% ในวันนี้ หลังจากเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทมีรายได้ที่ระดับ 3.328 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.260 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี บริษัทมีกำไร 17 เซนต์/หุ้น ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 22 เซนต์/หุ้น

นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ยืนยันว่า ตนและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะพบปะกันในเดือนหน้าเพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงทางการค้า ขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในวันนี้ ก็เป็นไปด้วยดี

"คณะเจรจาการค้าของจีนกำลังอยู่ในสหรัฐเพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ของเรา โดยการประชุมเป็นไปด้วยดี ซึ่งจีนไม่ต้องการให้มีการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้า และคิดว่าจะเป็นการดีกว่าที่พวกเขาจะสามารถทำข้อตกลงได้ และผมจะพบกับพวกเขาที่ห้องทำงานรูปไข่ในวันนี้ ซึ่งผมและพวกเขาจะพยายามทำข้อตกลงที่สมบูรณ์ โดยจะไม่ให้มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดค้างคาอยู่ แต่จะยังไม่มีการทำข้อตกลงขั้นสุดท้าย จนกว่าผมและท่านประธานาธิบดีสี จื้นผิง ซึ่งเป็นเพื่อนของผม จะพบกันในอนาคตอันใกล้ เพื่อหารือกัน และตกลงกันเกี่ยวกับประเด็นที่ยากกว่า และเกิดขึ้นมายาวนาน" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ทั้งนี้ การประชุมระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิงในเดือนหน้า ถือว่ามีความสำคัญต่อการเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เนื่องจากหากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนวันที่ 2 มี.ค. ปธน.ทรัมป์ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้

ทางด้านทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์จะพบปะกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน พร้อมกับคณะเจรจาการค้าของจีน ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาววันนี้

การเจรจาระหว่างปธน.ทรัมป์และนายหลิวจะมีขึ้นในเวลา 15.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 03.30 น.ตามเวลาไทย

ทั้งนี้ คณะเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยังคงทำการเจรจาในวันนี้ที่กรุงวอชิงตันเป็นวันที่ 2 และเป็นวันสุดท้าย โดยคณะเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุด นับตั้งแต่ที่ปธน.ทรัมป์พบปะกับปธน.สี จิ้นผิงในวันที่ 1 ธ.ค.ปีที่แล้ว

คาดว่าการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายจะดำเนินไปอย่างตึงเครียดในประเด็นการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ และการยุตินโยบายของจีนในการบังคับให้บริษัทสหรัฐถ่ายโอนเทคโนโลยีให้แก่บริษัทจีน

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้น 53,000 ราย สู่ระดับ 253,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2560 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 215,000 ราย

นอกจากนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่พุ่งขึ้น 53,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ก็ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2560 เช่นกัน

การพุ่งขึ้นของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว มีสาเหตุส่วนหนึ่งจากพนักงานที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งถูกพักงานอันเนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ที่ยาวนานเป็นประวัติการณ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ