ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 172.15 จุด รับผลประกอบการสดใส,จับตา"ทรัมป์"แถลงนโยบายประจำปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 6, 2019 06:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงราล์ฟ ลอเรน และเอสเต ลอเดอร์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยมีการคาดการณ์ว่า ปธน.ทรัมป์จะใช้โอกาสนี้ในการแถลงแผนการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และการปรับลดราคายา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,411.52 จุด เพิ่มขึ้น 172.15 จุด หรือ +0.68% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,402.08 จุด เพิ่มขึ้น 54.55 จุด หรือ +0.74% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,737.70 จุด เพิ่มขึ้น 12.83 จุด หรือ +0.47%

หุ้นเอสเต ลอเดอร์ ผู้ผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ "ลาแมร์" ปิดตลาดพุ่งขึ้น 11.64% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า กำไรในไตรมาส 2/2562 ตามปีงบการเงินของบริษัท อยู่ที่ระดับ 1.86 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.55 ดอลลาร์/หุ้น โดยได้แรงหนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งในประเทศจีน

หุ้นราล์ฟ ลอเรน ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแบรนด์หรูระดับโลก พุ่งขึ้น 8.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้และกำไรที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดีดตัวขึ้น 0.9% หลังจากเปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 8.98 พันล้านดอลลาร์ หรือ 12.77 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งเป็นการพลิกกลับมาทำกำไรหลังจากที่บริษัทขาดทุน 3.02 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.35 ดอลลาร์/หุ้น ในไตรมาส 4/2560

อย่างไรก็ตาม ในการซื้อขายระหว่างวัน ราคาหุ้นอัลฟาเบทร่วงลงกว่า 2% หลังจากบริษัทระบุว่า ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 3.107 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

หุ้นวอลท์ดิสนีย์ ปรับตัวขึ้น 0.77% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้และกำไรที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

หุ้นกลุ่มสื่อสารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเอทีแอนด์ที ขยับขึ้น 0.10% และหุ้นเวอไรซอน คอมมิวนิเคชั่น เพิ่มขึ้น 0.19%

นักลงทุนจับตาปธน.ทรัมป์ซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรสสหรัฐในวันนี้เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย โดยคาดว่า ในการแถลงนโยบายประจำปีครั้งนี้ ทรัมป์จะกล่าวถึงความสำเร็จและผลงานของรัฐบาลในปีที่แล้ว พร้อมกับจะกล่าวถึงสิ่งที่เขาจะดำเนินการต่อไปในอีก 2 ปีที่เหลือของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยจะมีการกล่าวเน้นหนักในเสาหลัก 5 ประการ คือ วิสัยทัศน์ของการมีระบบการตรวจคนเข้าเมืองที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย, การปกป้องแรงงานสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการทำข้อตกลงการค้าที่ไม่เป็นธรรม, การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน, การปรับลดราคายา และต้นทุนการรักษาสุขภาพ รวมทั้งการใช้ความพยายามในด้านการทูตและการทหารในการปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 56.7 ในเดือนม.ค. ซึ่งการชะลอตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว หลังจากแตะระดับ 57.6 ในเดือนธ.ค. ขณะที่ไอเอชเอส มาร์กิตรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคบริการของสหรัฐ ขยับลงมาอยู่ที่ระดับ 54.2 ในเดือนม.ค. จากระดับ 54.4 ในเดือนธ.ค.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดุลการค้าเดือนพ.ย., ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 4/2561 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ