ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 21.22 จุด หลังถ้อยแถลง"ทรัมป์"ไม่ลงรายละเอียดแผนศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 7, 2019 06:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) หลังจากการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ไม่ได้ลงรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับแผนเศรษฐกิจในอนาคต อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากตลาดได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งความหวังที่ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีความคืบหน้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,390.30 จุด ลดลง 21.22 จุด หรือ -0.08% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,731.61 จุด ลดลง 6.09 จุด หรือ -0.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,375.28 จุด ลดลง 26.80 จุด หรือ -0.36%

ประธานาธิบดีทรัมป์ได้แถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรสเมื่อช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาไทย โดยทรัมป์ไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับแผนเศรษฐกิจในอนาคต แต่กล่าวเพียงว่า นับตั้งแต่ที่เขาก้าวเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีนั้น เศรษฐกิจสหรัฐมีขยายตัวขึ้นเกือบสองเท่าและมีการจ้างงานใหม่มากกว่า 5.3 ล้านตำแหน่ง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าสหรัฐอาจเผชิญกับภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ รอบใหม่ หลังจากปธน.ทรัมป์เดินหน้าเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกในระหว่างการกล่าวแถลงนโยบายประจำปีครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีความคืบหน้า พร้อมกับยืนยันว่า เขาและคณะเจรจาการค้าของสหรัฐจะเดินทางไปยังจีนในสัปดาห์หน้า เพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 2 มี.ค.

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน โดยเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยกำไรไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 1.43 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.22 ดอลลาร์/หุ้น ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้น GE ปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.55%

หุ้นสแนป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสแนปแชท ทะยานขึ้น 22% หลังจากบริษัทเปิดเผยายได้ในไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 389.8 ล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 36% จากไตรมาส 4/2560 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 285.7 ล้านดอลลาร์

หุ้นคาปรี โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นชื่อใหม่ของบริษัท ไมเคิล คอร์ส ทะยานขึ้น 11.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการสำหรับปีงบการเงิน 2562

หุ้นบอสตัน ไซแอนติฟิค พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดเช่นกัน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ได้มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 11.5% สู่ระดับ 4.93 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.40 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากแตะระดับ 5.57 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.

ขณะที่สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 2.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับตัวลง

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้คือ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ