ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ระบุว่า ตนเองยังไม่มีแผนที่จะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก่อนที่จะถึงเส้นตายสรุปเรื่องข้อตกลงการค้าในวันที่ 1 มี.ค.นี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 20,413.91 จุด ลดลง 337.37 จุด, -1.63% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,684.95 จุด ลดลง 8.44 จุด, -0.50% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 27,854.23 จุด ลดลง 135.98 จุด, -0.49%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขาไม่มีแผนที่จะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ก่อนวันที่ 1 มี.ค. ซึ่งเป็นเส้นตายที่ทั้งสองฝ่ายกำหนดไว้สำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อผู้สื่อข่าวถามปธน.ทรัมป์ว่า เขาจะพบปะกับปธน.สี จิ้นผิง ก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 1 มี.ค.หรือไม่ ปธน.ทรัมป์ตอบว่า "ไม่" และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการพบปะกับปธน.สี จิ้นผิงในเดือนมี.ค.หรือไม่ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้"
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนธ.ค.ของญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับ 4.528 แสนล้านเยน (4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทำสถิติเกินดุลติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 54 เดือน
รายงานเบื้องต้นของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าสินค้าในเดือนธ.ค.อยู่ที่ระดับ 2.162 แสนล้านเยน ขณะที่ยอดขาดดุลการบริการอยู่ที่ระดับ 1.142 แสนล้านเยน
ส่วนตลอดปี 2561 นั้น ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดทั้งสิ้น 19.93 ล้านล้านเยน
กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่น รายงานว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนในเดือนธ.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายเพื่อซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า และวันหยุดในเดือนธ.ค.ปีนี้ที่มีจำนวนมากกว่าเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
กระทรวงฯ ระบุว่า ยอดการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนที่มีสมาชิก 2 คนหรือมากกว่า ปรับตัวขึ้น 0.1% เทียบรายปี แตะที่ 329,271 เยน (3,000 ดอลลาร์สหรัฐ)