ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 100 จุด บ่งชี้วอลล์สตรีทดีดตัว คาดสหรัฐ-จีนบรรลุข้อตกลงการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 14, 2019 20:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า

ณ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 117 จุด หรือ 0.46% สู่ระดับ 25,605 จุด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐได้ส่งคณะเจรจาที่มีความสามารถไปยังจีนในสัปดาห์นี้ และการเจรจาก็กำลังดำเนินไปอย่างดียิ่ง

ทางด้านนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวเช่นกันว่า การเจรจาการค้ากับจีนเป็นไปด้วยดี

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีกำหนดพบปะกับคณะเจรจาการค้าของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ขณะที่จีนจะเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงให้แก่คณะผู้แทนสหรัฐที่ภัตตาคารจีนในกรุงปักกิ่ง ซึ่งคาดว่านายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงดังกล่าว

ทั้งนี้ การที่ปธน.สี จิ้นผิง เตรียมให้การต้อนรับคณะผู้แทนการค้าสหรัฐ และการที่จีนมีกำหนดจัดงานเลี้ยงดังกล่าว ถือเป็นสัญญาณบวกที่แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาดีของทั้งจีนและสหรัฐในความพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย

นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่ปธน.สี จิ้นผิงเตรียมพบกับคณะผู้แทนการค้าสหรัฐ เป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าในบางส่วนแล้ว

สื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์อาจเลื่อนกำหนดเส้นตายในการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนออกไปอีก 60 วัน จากเดิมในวันที่ 1 มี.ค หากมีสัญญาณว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้า

ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์กำหนดเส้นตายสำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าในวันที่ 1 มี.ค. ซึ่งหากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนวันดังกล่าว ปธน.ทรัมป์ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคลายความกังวลเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ของสหรัฐ

สื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์อาจลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ซึ่งรวมงบในการสร้างรั้วกั้นแนวชายแดนที่ติดกับเม็กซิโก เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์รอบที่สอง

ตัวแทนการเจรจาจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ โดยที่ประชุมเห็นพ้องกันในการสร้างรั้ววงเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์ แต่ไม่ใช่กำแพงคอนกรีตที่ต้องใช้งบในการสร้างถึง 5.7 พันล้านดอลลาร์ตามปธน.ทรัมป์ต้องการ

ทั้งนี้ คาดว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะทำการลงมติร่างกฎหมายงบประมาณฉบับดังกล่าวในวันนี้ ก่อนที่จะส่งต่อให้กับวุฒิสภาพิจารณาเป็นลำดับต่อไป

หากปธน.ทรัมป์ไม่ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวภายในช่วงเที่ยงคืนของวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือช่วงเที่ยงของวันเสาร์นี้ตามเวลาไทย ก็จะส่งผลให้หน่วยงานของสหรัฐถูกชัตดาวน์อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทำเนียบขาวจะพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณฉบับนี้อย่างจริงจัง พร้อมกับกล่าวว่า เขาไม่ต้องการเห็นการชัตดาวน์เกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสถานการณ์เลวร้ายที่ไม่ควรเกิดขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ