ดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก บ่งชี้วอลล์สตรีทดีดตัว จับตาเจรจาการค้า,สหรัฐเลี่ยงชัตดาวน์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 15, 2019 20:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการลงนามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต่อร่างกฎหมายงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ก่อนเส้นตายในเวลาเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือช่วงเที่ยงพรุ่งนี้ตามเวลาไทย

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดทำการในวันจันทร์หน้า เนื่องในวันประธานาธิบดี

ณ เวลา 20.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 72 จุด หรือ 0.28% สู่ระดับ 25,499 จุด

ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 ในสัปดาห์นี้

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวในวันนี้ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความคืบหน้าที่สำคัญในสัปดาห์นี้ และทั้งสองฝ่ายจะยังคงเจรจาต่อไปที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์หน้า

"สัปดาห์หน้า ทั้งสองฝ่ายจะพบกันอีกครั้งที่กรุงวอชิงตัน ผมหวังว่าคุณจะยังคงใช้ความพยายามบรรลุข้อตกลงที่ได้ชัยชนะทั้งสองฝ่าย และได้ผลประโยชน์ร่วมกัน" ปธน.สี จิ้นผิงกล่าวต่อคณะเจรจาการค้าของสหรัฐ

ปธน.สี จิ้นผิงยังกล่าวว่า จีนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ข้อขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ

นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้มีผลลัพธ์ที่ดี

อย่างไรก็ดี นายมนูชินไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดการเจรจาการค้ากับจีน หลังจากเสร็จสิ้นการเจรจาในวันนี้

นอกจากนี้ คณะเจรจาการค้าของจีนก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของการเจรจาเช่นกัน

ทางด้านสภาคองเกรสมีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวแล้ว และมีการคาดการณ์กันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะลงนามในร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์รอบ 2

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าวจะให้เงินทุนแก่หน่วยงานรัฐบาลจำนวน 9 แห่งเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานต่อไปได้จนถึงวันที่ 30 ก.ย. โดยหน่วยงานเหล่านี้ได้ถูกปิดทำการ และเจ้าหน้าที่รัฐบาลจำนวน 800,000 รายถูกพักงานชั่วคราวในช่วงชัตดาวน์ก่อนหน้านี้ ขณะที่หน่วยงานอื่นๆ ที่ถูกมองว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติยังคงสามารถเปิดดำเนินงานในช่วงชัตดาวน์

ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในวันนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย เพื่อกล่าวถึงวิกฤตการณ์ทางด้านความมั่นคงและมนุษยธรรมตามแนวชายแดนทางใต้ของสหรัฐ ซึ่งเขาจะประกาศความต้องการใช้งบประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์ในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก

มีการคาดการณ์กันว่า ปธน.ทรัมป์จะใช้อำนาจประธานาธิบดีประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติในวันนี้ เพื่อออกกฎหมายอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดน โดยไม่ต้องผ่านการรับรองจากสภาคองเกรส

ถึงแม้สภาคองเกรสมีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวแล้ว แต่ร่างกฎหมายดังกล่าวมีการเจียดงบประมาณสำหรับการสร้างรั้วความยาว 55 ไมล์เพียง 1.375 พันล้านดอลลาร์ ไม่ใช่กำแพงคอนกรีตความยาว 215 ไมล์ วงเงิน 5.7 พันล้านดอลลาร์ตามที่ปธน.ทรัมป์ต้องการ

หากปธน.ทรัมป์ทำการประกาศภาวะฉุกเฉินในวันนี้ ก็จะทำให้เขาสามารถดึงงบประมาณส่วนที่ขาดอยู่จากหน่วยงานอื่นได้ เพื่อให้ครบวงเงินสำหรับการสร้างกำแพงตามที่เขาต้องการ โดยคาดว่าปธน.ทรัมป์จะโยกงบประมาณที่เหลือจากกระทรวงการคลัง และกระทรวงกลาโหม

อย่างไรก็ดี นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร อาจยื่นฟ้องศาลเพื่อคัดค้านการใช้อำนาจประธานาธิบดีของปธน.ทรัมป์ดังกล่าว เนื่องจากอาจขัดต่อกฎหมาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ