ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.) และดัชนี Stoxx Europe ยังคงปรับตัวอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในเร็วๆ นี้ ขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงเจรจากันต่อไปที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้
ดัชนี Stoxx Europe บวก 0.23% ปิดที่ 369.78 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,168.54 จุด เพิ่มขึ้น 15.36 จุดหรือ +0.30% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,299.20 จุด ลดลง 0.60 จุดหรือ -0.01% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,219.47 จุด ลดลง 17.21 จุดหรือ -0.24%
นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ ขณะที่มีแนวโน้มว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเลื่อนกำหนดเส้นตายในการบรรลุข้อตกลงทางการค้าจากวันที่ 1 มี.ค.ออกไปอีก 60 วัน หากมีสัญญาณว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลง
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มรถยนต์กดดันตลาด โดยหุ้นโฟล์คสวาเก้น ลดลง 1.15% และ หุ้นเดมเลอร์ เอจี ลบ 0.41% หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ส่งรายงานเรื่องผลกระทบจากการนำเข้ารถและชิ้นส่วนยานยนต์บนพื้นฐานของความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐให้แก่ปธน.ทรัมป์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีใหม่สำหรับรถและชิ้นส่วนยานยนต์นำเข้า
นางมาร์การิติส ชินาส โฆษกของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า EU จะตอบโต้อย่างรวดเร็ว หากสหรัฐเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรป โดยนิตยสารของเยอรมนีรายงานว่า ได้มีการหารือเรื่องการจัดเก็บภาษี 25% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ในสหรัฐเตือนว่า การเก็บภาษีนำเข้าดังกล่าวอาจทำให้มีคนตกงานในสหรัฐ โดยจะมีการปรับขึ้นราคารถและชิ้นส่วนยานยนต์
ส่วนปัจจัยในฝั่งยุโรปนั้น นักลงทุนยังคงจับตาธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะเริ่มต้นกลไกการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากนายเบนัวต์ โคเออร์ สมาชิกคณะกรรมการ ECB เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ECB กำลังพิจารณาการออกมาตรการใหม่ในการจัดสรรสภาพคล่องระยะยาวที่กำหนดกลุ่มเป้าหมาย (TLTRO)
หุ้นฟินเทค ไวร์การ์ด เอจี ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการชำระเงินของเยอรมนี พุ่งขึ้น 15.12% หลัง Bafin ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับสถาบันการเงินของเยอรมนีได้ออกคำสั่งห้ามนักลงทุนทำการชอร์ตเซลหุ้นไวร์การ์ด
หุ้นโฟเรอเซีย ซึ่งเป็นบริษัทรถยนต์ของฝรั่งเศส ปรับตัวขึ้น 1.32% หลังเปิดเผยผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในปี 2561
สำหรับการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเบาบางลง ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ