ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 96.22 จุดหลังหุ้นโบอิ้งดิ่งหนัก ขณะ S&P500,Nasdaq ปิดบวกรับเงินเฟ้อชะลอตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 13, 2019 06:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นโบอิ้งที่ร่วงลงอย่างหนักติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากเครื่องบิน Boeing 737 MAX 8 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ประสบอุบัติเหตุตกและส่งผลให้ผู้โดยสารเสียชีวิตทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก หลังจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐขยายต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,554.66 จุด ลดลง 96.22 จุด หรือ -0.38% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,791.52 จุด เพิ่มขึ้น 8.22 จุด หรือ +0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,591.03 จุด เพิ่มขึ้น 32.97 จุด หรือ +0.44%

หุ้นโบอิ้งปิดตลาดร่วงลง 6.1% ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบิน Boeing 737 MAX 8 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ประสบอุบัติเหตุตกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือจำนวน 157 รายเสียชีวิตทั้งหมด

ทั้งนี้ โบอิ้งกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเนื่องจากสายการบินในหลายประเทศได้ระงับการใช้เครื่องบิน Boeing 737 MAX 8 แม้สำนักงานการบินพลเรือนสหรัฐ (FAA) ได้ออกมาสร้างความเชื่อมั่นด้วยการออกหนังสือรับรองความสมควรเดินอากาศอย่างต่อเนื่อง (Continued Airworthiness Notification) ให้กับเครื่องบินรุ่นดังกล่าวของบริษัทโบอิ้งก็ตาม

นอกจากนี้ ดาวโจนส์ยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า สมาชิกสภาสามัญชนของอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 391-242 เสียงคว่ำข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำไว้กับผู้นำสหภาพยุโรป (EU) เมื่อวานนี้ ส่งผลให้รัฐสภาอังกฤษต้องทำการลงมติในวันนี้ว่าจะเห็นชอบต่อการที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU โดยไร้ข้อตกลงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ของสหรัฐขยับขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในอัตราต่ำที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง และหากเทียบรายปี ดัชนี CPI เดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2559

หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.1% หลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ ได้ส่งจดหมายเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมอีเว้นท์ของทางบริษัทในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ที่เมืองคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่สื่อคาดการณ์ว่า แอปเปิลจะใช้เวทีนี้เปิดตัวบริการสตรีมทีวีและวิดีโอ โดยคาดว่าแอปเปิลมีแผนเปิดให้บริการดังกล่าวทั่วโลก เพื่อแข่งกับคู่แข่งอย่างเน็ตฟลิกซ์ รวมถึงบริการสตรีมมิ่งของอเมซอนอย่าง Prime Video

หุ้นฮิวเล็ต แพคการ์ด (เอชพี) ร่วงลง 3% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเอชพีลงสู่ระดับ "sell" จากระดับ "neutral"

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค., การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนก.พ., ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนมี.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ