ดัชนีดาวโจนส์ปรับฐานหลังดีดตัวขึ้นก่อนหน้านี้ แต่ตลาดยังคงได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการที่รัฐสภาอังกฤษมีมติขยายกำหนดเส้นตายการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ณ เวลา 21.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,692.05 จุด ลบ 17.89 จุด หรือ 0.07%
ถึงแม้ดัชนีดาวโจนส์อ่อนตัวลงในวันนี้ แต่ได้พุ่งขึ้น 1% ในสัปดาห์นี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐจะทราบในอีก 3-4 สัปดาห์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีน
"เราจะมีข่าวเกี่ยวกับจีน โดยเราจะรู้ในช่วง 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งถ้ามีการบรรลุข้อตกลงกับจีน ก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้มีผู้กล่าวถึงไปอีกนาน" ปธน.ทรัมป์กล่าว
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังระบุว่า จีนมีความรับผิดชอบ และมีเหตุผลอย่างมาก
สื่อรายงานว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ โดยทั้งสองฝ่ายได้มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาการค้า
รัฐสภาอังกฤษลงคะแนนเสียงท่วมท้นเมื่อวานนี้ เรียกร้องให้สหภาพยุโรป (EU) ขยายกำหนดเวลาการแยกตัวออกไปจากเดิมในวันที่ 29 มี.ค.
ทั้งนี้ สมาชิกสภาสามัญชนของอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 412-202 เสียง เรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเส้นตาย Brexit ออกไป 3 เดือน หรือจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. แต่ข้อเรียกร้องนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากทาง EU
อย่างไรก็ดี การขยายกำหนดเส้นตายดังกล่าวอยู่บนเงื่อนไขที่ว่ารัฐสภาจะต้องให้ความเห็นชอบต่อข้อตกลง Brexit ที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะยื่นเข้าสู่การพิจารณาของสภาเป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 20 มี.ค.
หากรัฐสภายังคงมีมติคว่ำข้อตกลง Brexit ในวันที่ 20 มี.ค. รัฐบาลอังกฤษก็จะต้องขอการอนุมัติจาก EU เพื่อให้มีการขยายเวลาเส้นตาย Brexit ที่ยาวนานขึ้น
ทั้งนี้ EU จะจัดการประชุมสุดยอดในวันที่ 21-22 มี.ค. ซึ่งสมาชิกทั้ง 27 ชาติของ EU จะต้องให้ฉันทามติต่อการขยายกำหนดเส้นตาย Brexit ของอังกฤษ
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนก.พ. โดยได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของการผลิตรถยนต์, เครื่องจักร และเฟอร์นิเจอร์
เฟดเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐร่วงลง 0.4% ในเดือนก.พ. หลังจากปรับตัวลง 0.5% ในเดือนม.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.พ.
นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 19-20 มี.ค. โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้