ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดขึ้นในช่วงเปิดตลาดวันนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาทิศทางตลาดพันธบัตรอย่างใกล้ชิด ด้านกระทรวงพาณิชย์เผยสหรัฐขาดดุลการค้าลดลงเกือบ 15% ในเดือนม.ค. หลังส่งออกดีดตัวในรอบสี่เดือน ขณะนำเข้าจากจีนร่วงหนัก
ณ เวลา 20.36 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,745.37 จุด เพิ่มขึ้น 87.64 จุด หรือ 0.34%
หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ ลดลง 0.4% หลังจากทางสายการบินได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 1 และปรับเพิ่มคาดการณ์ต้นทุนการดำเนินงาน โดยระบุถึงผลกระทบของการที่รัฐบาลสหรัฐประกาศระงับการใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 Max 8
นักลงทุนจับตาทิศทางตลาดพันธบัตรอย่างใกล้ชิด หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้เกิดภาวะเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐแบบลาดลง หรือ Inverted yield curve เป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ ซึ่งได้จุดชนวนความกังวลในตลาดการเงินทั่วโลกว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ โดยคณะผู้แทนการค้าสหรัฐ ซึ่งนำโดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ จะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งของจีนในวันที่ 28-29 มี.ค.นี้ เพื่อเจรจากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน โดยการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีเป้าหมายที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าภายในสิ้นเดือนเม.ย.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยในช่วงก่อนเปิดตลาด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า สหรัฐขาดดุลการค้าลดลง 14.6% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 5.11 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบห้าเดือน จากระดับ 5.99 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนม.ค. จะอยู่ที่ 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์
ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐลดลงอย่างมากในเดือนม.ค. หลังจากที่พุ่งทะยานขึ้นในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการค้ากับจีนที่หยุดชะงัก อันเนื่องมาจากการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐ และมาตรการตอบโต้จากจีน
ทั้งนี้ ยอดนำเข้าในเดือนม.ค. ลดลง 2.6% แตะระดับต่ำสุดในรอบเจ็ดเดือนที่ 2.585 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 0.9% แตะที่ 2.073 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่ปรับตัวลดลงมาสามเดือนติดต่อกัน