ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 มี.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐลดลงต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ รวมทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2561 ของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,625.59 จุด ลดลง 32.14 จุด หรือ -0.13% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,805.37 จุด ลดลง 13.09 จุด หรือ -0.46% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,643.38 จุด ลดลง 48.15 จุด หรือ -0.63%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงแตะระดับ 2.38% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนธ.ค. 2560 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภทอายุ 3 ปีอยู่ที่ระดับ 2.46%
ทั้งนี้ การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐร่วงลงต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นนั้น ส่งผลให้เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลาดลง หรือ Inverted yield curve ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในอีก 12 หรือ 24 เดือนข้างหน้า โดยภาวะ Inverted yield curve ยังคงปรากฎให้เห็นเมื่อคืนนี้ หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ภาวะดังกล่าวได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ ซึ่งได้จุดชนวนความกังวลในตลาดการเงินทั่วโลกว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจซบเซา โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวลง 0.35% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ลดลง 0.8% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 1.22% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ลดลง 0.5% และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส ลดลง 0.34%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ WTI หลังจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางตัวเลขคาดการณ์ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.7% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.08% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 1.09% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ลดลง 0.8% และหุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ลดลง 0.9%
หุ้นเซนทีน คอร์ป ซึ่งเป็นบริษักประกันด้านสุขภาพ ร่วงลง 5% หลังจากเซนทีนประกาศแผนการซื้อกิจการเวลล์แคร์ เฮลธ์ แพลน อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบจัดการด้านสุขภาพ ในวงเงิน 1.73 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเวลล์แคร์ เฮลธ์ แพลน พุ่งขึ้น 12%
หุ้นสายการบินเซาท์เวสต์ แอร์ไลน ดีดตัวขึ้น 2.2% หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากทางสายการบินได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 1 และปรับเพิ่มคาดการณ์ต้นทุนการดำเนินงาน โดยระบุถึงผลกระทบของการที่รัฐบาลสหรัฐประกาศระงับการใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 Max 8
หุ้นราล์ฟ ลอเรน พุ่งขึ้น 2.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของหุ้นราล์ฟ ลอเรน สู่ระดับ "outperform" จากระดับ "market perform" เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง
นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ โดยคณะผู้แทนการค้าสหรัฐ ซึ่งนำโดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ จะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งของจีนในวันที่ 28-29 มี.ค.นี้ เพื่อเจรจากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน โดยการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีเป้าหมายที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าภายในสิ้นเดือนเม.ย.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า สหรัฐขาดดุลการค้าลดลง 14.6% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 5.11 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบห้าเดือน จากระดับ 5.99 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนม.ค. จะอยู่ที่ 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2561, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.พ., รายได้ส่วนบุคคลเดือนก.พ., ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.