ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายหลังจากดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยารายใหญ่ของสหรัฐ หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,179.13 จุด ลดลง 79.29 จุด หรือ -0.30% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,867.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.05 จุด หรือ +0.00% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,848.69 จุด เพิ่มขึ้น 19.78 จุด หรือ +0.25%
นักลงทุนชะลอการซื้อขายหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคการผลิตทั้งในสหรัฐและจีน
หุ้นวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ดิ่งลง 12.8% ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบ หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด และได้ปรับลดคาดการณ์กำไรในปีนี้ โดยวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ เป็นเครือข่ายร้านขายยาทั่วประเทศซึ่งจำหน่ายยาตามใบสั่งแพทย์ และยาที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ รวมทั้งให้บริการเกี่ยวกับสุขภาพและสินค้าทั่วไป
การร่วงลงของหุ้นวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ได้ฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธุรกิจสุขภาพ โดยหุ้นซีวีเอส เฮลธ์ ดิ่งลง 3.8% หุ้นเอเมอริซอสเบอร์เจน คอร์ป ร่วงลง 5.8% หุ้นคาร์ดินัล เฮลธ์ อิงค์ ร่วงลง 4% หุ้นแมคเคนสัน คอร์ป ร่วงลง 3.4% หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ ลดลง 0.5% หุ้นเมดโทรนิค ลดลง 0.3% และหุ้นเอชซีเอ เฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงพยาบาลรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ร่วงลง 1.01%
หุ้นเทสลา ร่วงลง 1.1% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยยอดการผลิตรถยนต์ประจำไตรมาส 1/2562 ในสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 3.3% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 0.2% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 0.14% หุ้นอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล เพิ่มขึ้น 0.5% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ เพิ่มขึ้น 0.6% และหุ้นไมครอน เทคโนโลยีส์ เพิ่มขึ้น 0.4%
หุ้นกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้น หลังจากเดลต้า แอร์ไลน์ เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 1/2562 โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 6% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส เพิ่มขึ้น 0.5% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 2% หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล พุ่งขึ้น 2.3% และหุ้นเจ็ทบลู แอร์เวย์ส เพิ่มขึ้น 1.2%
หุ้นดาว อิงค์ พุ่งขึ้น 5.1% ในการซื้อขายวันแรกเมื่อคืนนี้ หลังจากดาว อิงค์ ได้แยกกิจการออกจากบริษัทดาวดูปองท์ อิงค์ อย่างเป็นทางการ
นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2562 ของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทจดทะเบียนในดัชนี S&P 500 จะรายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกลดลงเกือบ 4%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 1.6% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. ทั้งนี้ การร่วงลงของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนก.พ. ได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของคำสั่งซื้อเครื่องบิน
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.