ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าอ่อนตัวลง เหตุวิตกเฟดส่อแววไม่ขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ - Brexit

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 11, 2019 12:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้อ่อนตัวลง ภายหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมที่บ่งชี้ว่า ในปีนี้ เฟดจะยังคงไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางสถานการณ์อังกฤษขยายเวลาการถอนตัวออกจาก EU (Brexit)

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 29,841.01 จุด ลดลง 278.55 จุด, -0.92% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,627.87 จุด ลดลง 59.70 จุด, -0.28% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,628.11 จุด ลดลง 11.35 จุด, -0.69%

ธนาคารกลางสหรัฐ เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 19-20 มี.ค. โดยระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดยังคง "ใช้ความอดทน" ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป

รายงานการประชุมเฟดซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐระบุว่า เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์การเงินทั่วโลก รวมทั้งแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงนั้น กรรมการเฟดจึงมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า คณะกรรมการ FOMC ควรใช้ความอดทนในการพิจารณาเรื่องการปรับเปลี่ยนกรอบเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rates) ในอนาคต ซึ่งถือเป็นแนวทางอันเหมาะสมที่จะช่วยสนับสนุนผลลัพธ์ต่างๆที่คณะกรรมการต้องการ

นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรปเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์เมื่อคืนนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ผู้นำประเทศสมาชิก 27 ชาติของสหภาพยุโรป (EU) ได้เห็นชอบให้อังกฤษขยายเวลาการถอนตัวออกจาก EU (Brexit) ไปเป็นวันที่ 31 ต.ค. ซึ่งนานกว่าที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ยื่นขอต่อ EU ก่อนหน้านี้ว่าให้เลื่อนเวลา Brexit เป็น 30 มิ.ย.

คณะมนตรียุโรปเห็นชอบต่อการขยายเวลาดังกล่าวเพื่อให้มีการรับรองข้อตกลงการถอนตัว (Withdrawal Agreement) โดยการขยายเวลา Brexit จะยาวนานตราบที่จำเป็นเท่านั้น และจะต้องไม่เกินจากวันที่ 31 ต.ค. 2562 ซึ่งถ้าหากทั้งสองฝ่ายสามารถรับรองข้อตกลงการถอนตัวได้ก่อนวันดังกล่าว การถอนตัวของอังกฤษออกจาก EU ก็จะเกิดขึ้นในวันแรกของเดือนถัดไป

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนก.พ.ที่มีการขยายตัวเพียง 1.5%

รายงานของ NBS ระบุว่า ราคาอาหารในเดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้น 4.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนก.พ.ที่ขยับขึ้นเพียง 0.7% ขณะที่ราคาสินค้านอกหมวดอาหาร เพิ่มขึ้น 1.8% ซึ่งสูงกว่าเดือนก.พ. อยู่ 0.1%

ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ