ดาวโจนส์พักฐาน หลังพุ่งแรงวานนี้ ขานรับผลประกอบการแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 24, 2019 21:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พักฐานในการซื้อขายวันนี้ หลังจากที่พุ่งขึ้นวานนี้ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

ขณะนี้ บริษัทจำนวนเกือบ 130 แห่งในดัชนี S&P 500 ได้เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสแรกแล้ว โดย 78% สามารถรายงานตัวเลขกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และดีกว่าที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าบริษัทจดทะเบียนจะรายงานผลประกอบการลดลง 4.2% ในไตรมาสแรก

ณ เวลา 21.31 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,639.88 จุด ลบ 16.51 จุด หรือ 0.06%

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับผลประกอบการที่สดใส

ราคาหุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พุ่งขึ้นในวันนี้ หลังเปิดเผยตัวเลขกำไร และรายได้ในไตรมาสแรก สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทมีกำไร 2.94 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.85 ดอลลาร์/หุ้น และมีรายได้ที่ระดับ 1.347 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.340 หมื่นล้านดอลลาร์

ราคาหุ้นของแคทเธอร์ พิลลาร์ถือเป็นตัวชี้วัดสภาวะการค้าของสหรัฐ เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศ

ทางด้านบริษัทโบอิ้งเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรในไตรมาสแรก สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่มีรายได้ต่ำกว่าคาด โดยบริษัทมีกำไรที่ระดับ 3.16 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้ 2.292 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.298 หมื่นล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน โบอิ้งเปิดเผยว่า บริษัทขอยกเลิกตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการประจำปีนี้ ขณะที่บริษัทกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเครื่องบินรุ่น 737 MAX โดยระบุว่า ตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ไม่ได้สะท้อนผลกระทบจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินรุ่นดังกล่าว

ราคาหุ้นโดมิโนส์ พิซซา อิงค์ ดีดตัวขึ้นหลังจากที่บริษัทเปิดเผยกำไรสูงกว่าคาดในไตรมาสแรก แม้ว่ารายได้และยอดขายต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ โดมิโนส์ระบุว่า บริษัทมีกำไรที่ระดับ 2.20 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.09 ดอลลาร์/หุ้น อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 836 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 849.6 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทระบุว่ายอดขายเพิ่มขึ้นเพียง 3.9% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.22%

ทางด้านสแนป อิงค์ ซึ่งเป็นเจ้าของแอป Snapchat เปิดเผยรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาสแรก โดยบริษัทมีรายได้ที่ระดับ 320 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 307 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทมีตัวเลขขาดทุน 10 เซนต์/หุ้น ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 12 เซนต์/หุ้น ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ใช้บริการรายวันทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 190 ล้านคน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 187.22 ล้านคน ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการอยู่ที่ระดับ 1.68 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.62 ดอลลาร์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาบริษัทออคซิเดนทัล ปิโตรเลียม ซึ่งได้ประกาศเปิดศึกเทคโอเวอร์บริษัทอนาดาร์โค ปิโตรเลียม ในวันนี้ ด้วยการเสนอวงเงินที่สูงกว่าบริษัทเชฟรอน

ทั้งนี้ ออคซิเดนทัลเสนอซื้อหุ้นอนาดาร์โคที่ระดับ 76 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าระดับ 65 ดอลลาร์ของเชฟรอน โดยผู้ถือหุ้นอนาดาร์โค จะได้รับหุ้นออคซิเดนทัลจำนวน 0.6094 หุ้น และเงินสด 38 ดอลลาร์สำหรับทุกๆ 1 หุ้นของอนาดาร์โค

ข้อเสนอของออคซิเดนทัลส่งผลให้อนาดาร์โคมีมูลค่าสินทรัพย์ 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์

ทางด้านบริษัทเชฟรอน ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ ประกาศเมื่อวันที่ 12 เม.ย.เกี่ยวกับแผนเข้าซื้อกิจการอนาดาร์โค ปิโตรเลียม ซึ่งเป็นบริษัทด้านการสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ในวงเงิน 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์

เชฟรอนหวังว่าการซื้อกิจการอนาดาร์โค จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) รวมทั้งก๊าซธรรมชาติ

ทั้งนี้ ตามข้อตกลงดังกล่าว เชฟรอนจะซื้อหุ้นอนาดาร์โคในราคาหุ้นละ 65 ดอลลาร์

นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นอนาดาร์โค จะได้รับหุ้นเชฟรอนจำนวน 0.3869 หุ้น และเงินสด 16.25 ดอลลาร์สำหรับทุกๆ 1 หุ้นของอนาดาร์โค

ขณะเดียวกัน เชฟรอนจะเข้ารับภาระหนี้จำนวน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ของอนาดาร์โค


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ