ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 162.77 จุด หลัง"พาวเวล"ส่งสัญญาณเฟดไม่ลดดอกเบี้ยเร็วๆนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 2, 2019 06:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อที่อ่อนแรงลงในช่วงที่ผ่านมานั้น อาจเกิดจากปัจจัยชั่วคราว และเชื่อว่าเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% โดยนักลงทุนมองว่า ถ้อยแถลงของนายพาวเวลที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อนั้น เป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามกดดันให้เฟดลดดอกเบี้ยก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,430.14 จุด ลดลง 162.77 จุด หรือ -0.61% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,923.73 จุด ลดลง 22.10 จุด หรือ -0.75% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,049.64 จุด ลดลง 45.75 จุด หรือ -0.57%

นายพาวเวลได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมเฟดเมื่อวานนี้ โดยนายพาวเวลยังคงย้ำจุดยืนด้านนโยบายของเฟด แม้ปธน.ทรัมป์ พยายามกดดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม โดยปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเพื่อเรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1% และใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ครั้งใหม่ ซึ่งหากเฟดมีการผ่อนคลายนโยบาย เศรษฐกิจสหรัฐก็จะพุ่งขึ้นเหมือนจรวด ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า "เราเป็นสถาบันที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งหมายความว่า เราไม่มีการอภิปรายในประเด็นการเมือง และเราจะไม่นำประเด็นการเมืองมาใช้ประกอบการตัดสินใจของเรา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งก็ตาม" พร้อมกับย้ำว่า จุดยืนด้านนโยบายของเฟดในขณะนี้ "มีความเหมาะสม" และเฟดยังมองไม่เห็นหลักฐานใดๆที่จะผลักดันให้เฟดดำเนินนโยบายไปในทิศทางอื่น

ส่วนในเรื่องเงินเฟ้อของสหรัฐที่อ่อนแรงลงนั้น นายพาวเวลเชื่อว่า แรงกดดันด้านราคาที่ปรับตัวลดลงเมื่อเร็วๆนี้ อาจจะเกิดจาก "ปัจจัยชั่วคราว" และคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ในวันข้างหน้า

สำหรับการประชุมนโยบายการเงินซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ พร้อมกับย้ำว่า เฟดว่าจะใช้ความอดทนก่อนที่จะมีการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจากระดับ 2.25-2.50% ในปัจจุบัน

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับผลประกอบการของบริษัทแอปเปิล อิงค์ หลังจากบริษัท เปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2/2562 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มี.ค. 2562 ตามปีงบการเงินของบริษัท ที่ระดับ 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งแม้ว่าลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.74 หมื่นล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งช่วยหนุนหุ้นแอปเปิลปิดตลาดพุ่งขึ้น 4.9%

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 2% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 1.8% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ลดลง 0.9% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ร่วงลง 2.7% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 2.6%

หุ้นเอสเต้ ลอเดอร์ ผู้ผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ ปิดตลาดปรับตัวลง 0.9% หลังจากที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นในระหว่างวัน จากการที่บริษัทเปิดเผยยอดขายที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาสแรก

หุ้นยัม แบรนด์ส ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของพิซซ่า ฮัท, เคนตั๊กกี ฟรายชิกเก้น (KFC) และทาโก เบล ร่วงลง 2.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาสแรกที่ระดับ 1.25 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 275,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างของสหรัฐร่วงลง 0.9% ในเดือนมี.ค. หลังจากปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.พ.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนเม.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนเม.ย.จากมาร์กิต และดัชนีบริการเดือนเม.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ