ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) โดยถูกกดดันหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็วๆ นี้ และหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวลง ส่งผลถ่วงตลาดลงด้วย ขณะที่หลายบริษัทรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.58% ปิดที่ 388.84 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,538.86 จุด ลดลง 47.55 จุด หรือ -0.85% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,351.31 จุด ลดลง 33.95 จุด หรือ -0.46% ส่วนดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,345.42 จุด เพิ่มขึ้น 1.34 จุด หรือ +0.01%
ตลาดปรับตัวลง หลังเฟดมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ในช่วง 2.25-2.5% และนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเร็วๆ นี้
บรรดานักลงทุนยังคงติดตามเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้ส่งสัญญาณประนีประนอมเกี่ยวกับข้อตกลง Brexit โดยคาดว่าทั้งสองฝ่ายจะหารือร่วมกันสัปดาห์หน้าในช่วงวันที่ 7-8 พ.ค. เนื่องจากสัปดาห์นี้ อังกฤษอยู่ระหว่างการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลง โดยหุ้นบีเอชพี ลบ 1.92% หลังบริษัทประกาศปรับลดแนวโน้มการผลิตสินแร่เหล็กในปีนี้
หุ้นแองโกล อเมริกัน ลดลง 1.91% หุ้นแอนโทฟากัสตา ร่วงลง 1.98% หุ้นริโอ ทินโต ปรับตัวลง 1.18% และ หุ้นเกล็นคอร์ ร่วงลง 1.79%
นักลงทุนให้ความสนใจกับการเปิดเผยผลประกอบการของกลุ่มธนาคารด้วย โดยหุ้นลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป ลบ 1.26% หลังเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง