ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ ตามตลาดหุ้นทั่วโลกจากวิตกสหรัฐขู่ขึ้นภาษีจีน

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) ตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ร่วงลงจากความวิตกที่ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนอาจเผชิญความยากลำบาก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐขู่ที่จะปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีนในสัปดาห์นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.88% ปิดที่ 386.95 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,483.52 จุด ลดลง 65.31 จุด หรือ -1.18% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,286.88 จุด ลดลง 125.87 จุด หรือ -1.01% ส่วนตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการวันจันทร์ที่ 6 พ.ค. เนื่องในวัน Early May Bank Holiday

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงตามหุ้นทั่วโลก หลังปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์นั้น จะปรับตัวขึ้นจากเดิม 10% เป็น 25% ในวันศุกร์นี้ พร้อมกับขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มเติมหลังจากนั้น

สถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ยกเลิกการเดินทางไปยังสหรัฐ แม้สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คณะผู้เจรจาการค้าของจีนยังคงวางแผนที่จะเดินทางไปเจรจาการค้าที่กรุงวอชิงตันก็ตาม

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.3 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 51.6 ในเดือนมี.ค.

หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลงตามกันจากความวิตกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน โดยหุ้นเดมเลอร์ เอจี ลบ 1.68% หุ้นโฟล์คสวาเกน ลดลง 1.50% และ หุ้นเรโนลต์ ปรับตัวลง 2.32%

หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นโททาล ลบ 2.16% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ลดลง 0.28% และ หุ้นเรฟซอล ปรับตัวลง 0.85%

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นบังโก ซานแทนเดอร์ ลดลง 1.22% หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ลบ 0.77% และหุ้นไอเอ็นจี กรุ๊ป ร่วง 1.43%

หุ้นอาร์เซลอร์มิตตัล ร่วง 4.52% หลังบริษัทเปิดเผยว่าจะปรับลดการผลิตเหล็กกล้าในยุโรปลง 3 ล้านตัน เนื่องจากอุปสงค์ในภูมิภาคซบเซาลง