ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ขู่ว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง รวมถึงหุ้นบริษัทโบอิ้งและแคทเธอร์พิลลาร์ซึ่งมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,965.09 จุด ร่วงลง 473.39 จุด หรือ -1.79% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,963.76 จุด ลดลง 159.53 จุด หรือ -1.96% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,884.05 จุด ลดลง 48.42 จุด หรือ -1.65%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากปธน.ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% ในวันศุกร์นี้ จากเดิมที่ระดับ 10% รวมทั้งจะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 3.25 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 25% ในไม่ช้า
นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ เปิดเผยว่า จีนได้กลับคำสัญญาที่ทำไว้ในระหว่างการเจรจาการค้ากับสหรัฐ และทำให้ข้อตกลงเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ปธน.ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในครั้งนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่สหรัฐและจีนมีกำหนดกลับมาเจรจาการค้าอีกครั้งในวันที่ 9-10 พ.ค.ที่กรุงวอชิงตัน โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ จะเข้าร่วมการเจรจาการค้าในครั้งนี้ด้วย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายได้เจรจาร่วมกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่กรุงปักกิ่งของจีน
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งมีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศนั้น ร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 3.4% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดิ่งลง 2.2% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ร่วงลง 3.4% หุ้นอีตัน คอร์ป ลดลง 1.2% หุ้น 3M ดิ่งลง 2.1% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (GE) ร่วงลง 3.1% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก ดิ่งลง 3.7%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าเช่นกัน โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 2.7% หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 2.1% หุ้นอเมซอนดอทคอม ลดลง 1.5% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ลดลง 1.2% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 2.2% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.05% หุ้นอินเทล ลดลง 1.4% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ร่วงลง 2.1% และหุ้น Nvidia ดิ่งลง 3.7%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงหลังจากราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล ลดลง 0.5% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ดิ่งลง 3.6% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ร่วงลง 1.4% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 2.5%
หุ้นอนาดาร์โค ปิโตรเลียม ดีดตัวขึ้น 0.4% หลังจากคณะกรรมการบริหารของบริษัทอนาดาร์โค ปิโตรเลียม เปิดเผยว่า บริษัทออคซิเดนทัล ปิโตรเลียมให้ข้อเสนอที่ดีกว่าบริษัทเชฟรอนในการซื้อกิจการอนาดาร์โค ขณะที่ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นออคซิเดนทัล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 1.6%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐได้เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ซึ่งพบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน พุ่งขึ้น 346,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.5 ล้านตำแหน่งในเดือนมี.ค.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., ดุลการค้าเดือนมี.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.