ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าอ่อนตัวลง เหตุวิตกสงครามการค้า-ยอดส่งออกจีน

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้อ่อนตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยจากข้อมูลเศรษฐกิจของจีน ซึ่งยอดส่งออกสวนทางกับการคาดการณ์

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 29,156.23 จุด ลดลง 206.79 จุด, -0.70% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,584.26 จุด ลดลง 339.46 จุด, -1.55% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,632.15 จุด ลดลง 7.22 จุด, -0.44%

สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ว่า มูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ เพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 9.51 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 1.41 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ)

โดยยอดส่งออกในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ เพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 5.06 ล้านล้านหยวน ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.9% สู่ระดับ 4.45 ล้านล้านหยวน ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ เพิ่มขึ้น 31.8% แตะที่ระดับ 6.1817 แสนล้านหยวน

ส่วนมูลค่าการค้าต่างประเทศในเดือนเม.ย.เพียงเดือนเดียวนั้น เพิ่มขึ้น 6.5% แตะที่ระดับ 2.51 ล้านล้านหยวน โดยยอดส่งออกในเดือนเม.ย.ขยายตัว 3.1% เมื่อคำนวณในรูปสกุลเงินหยวน ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 10.3% ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าของจีนในเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 9.357 หมื่นล้านหยวน ลดลง 43.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่า กรรมการกำหนดนโยบายของ BOJ เห็นด้วยกับการที่ BOJ ยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในปัจจุบันต่อไป และเตรียมพร้อมรับมือ หากเศรษฐกิจญี่ปุ่นเผชิญความเสี่ยงขาลง และราคาปรับตัวขึ้น กรรมการ BOJ ยังคงจับตาผลกระทบของมาตรการผ่อนคลายที่มีต่อสถาบันการเงิน รวมทั้งผลกระทบที่มีต่อการปรับตัวของตลาดต่างๆ

รายงานการประชุมเดือนมี.ค.ระบุว่า BOJ ต้องให้ความสนใจกับผลกระทบของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษที่มีต่อผลกำไรของธนาคารระดับภูมิภาค