ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ระบุว่า จีนไม่ยอมทำตามข้อตกลงที่เคยให้ไว้ในระหว่างการเจรจาการค้าร่วมกับสหรัฐ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้สหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มผู้ผลิตชิพร่วงลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,828.36 จุด ลดลง 138.97 จุด หรือ -0.54% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,910.59 จุด ลดลง 32.73 จุด หรือ -0.41% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,870.72 จุด ลดลง 8.70 จุด หรือ -0.30%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวว่า จีนไม่ยอมทำตามข้อตกลงที่เคยให้ไว้ในระหว่างการเจรจาการค้าร่วมกับสหรัฐ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้สหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% ในวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ จากเดิมที่ระดับ 10% รวมทั้งจะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 3.25 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 25% ในไม่ช้า
ทางด้านนายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า จีนพร้อมรับมือความเป็นไปได้ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และจีนพร้อมตอบโต้สหรัฐ หากมีการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า โดยหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 1% หุ้น 3M ดิ่งลง 1.8% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ลดลง 0.4% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ลดลง 0.2% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (GE) ร่วงลง 1.1%
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพร่วงลง เนื่องจากบริษัทผลิตชิพหลายแห่งของสหรัฐต้องพึ่งพารายได้จากจีน โดยดัชนีหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพร่วงลง 1.2% หุ้นอินเทล ดิ่งลง 5.3% หุ้น Nvidia ร่วงลง 2.1% หุ้นเซอร์รัส ลอจิค ลดลง 0.6% และหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลง 1.2%
หุ้นกลุ่มวัสดุร่วงลงเช่นกัน โดยดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุปรับตัวลง 0.8% หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แรน ลดลง 0.8% หุ้นวัลแคน มาเทเรียลส์ ลดลง 0.1% หุ้นซีลด์ แอร์ คอร์ป ลดลง 0.8%
หุ้นเชฟรอน ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากเชฟรอนประกาศว่าจะไม่เสนอวงเงินใหม่ในการซื้อกิจการบริษัทอนาดาร์โค ปิโตรเลียม ซึ่งเป็นบริษัทด้านการสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยการตัดสินใจดังกล่าวของเชฟรอนบ่งชี้ว่า บริษัทออคซิเดนทัล ปิโตรเลียมจะเป็นผู้ชนะในการซื้อกิจการอนาดาร์โค
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.5% สู่ระดับ 5.0 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. หลังจากที่ขาดดุลการค้า 4.93 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ.
นอกจากจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากพุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนมี.ค. ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน
นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. ในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย