ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 207.06 จุด นลท.ช้อนซื้อหลังหุ้นร่วงหนัก,จับตาเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 15, 2019 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิววยอร์กปิดดีดตัวขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดพุ่งขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐกำลังอยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในการทำข้อตกลงกับจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,532.05 จุด พุ่งขึ้น 207.06 จุด หรือ +0.82% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,834.41 จุด เพิ่มขึ้น 22.54 จุด หรือ +0.80% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,734.49 จุด เพิ่มขึ้น 87.47 จุด หรือ +1.14%

นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มที่ร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นโบอิ้ง ดีดตัวขึ้น 1.7% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.7% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ เพิ่มขึ้น 1.5% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (GE) ทะยานขึ้น 4.5% หุ้นยูเอส สตีล พุ่งขึ้น 2.6% และหุ้น 3M เพิ่มขึ้น 0.6%

ส่วนหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีนั้น หุ้นแอปเปิล ดีดตัวขึ้น 1.6% หุ้นอเมซอนดอทคอม เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.1% หุ้นอินเทล เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ เพิ่มขึ้น 1.4% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 2.3% และหุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 3%

หุ้นไบเออร์ ร่วงลง 2.02% หลังจากคณะลูกขุนในแคลิฟอร์เนียสั่งให้ทางบริษัทจ่ายเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ให้แก่สามีภรรยาคู่หนึ่งที่อ้างว่าเป็นโรคมะเร็งเนื่องจากใช้ผลิตภัณฑ์ยาฆ่าหญ้า"ราวน์อัพ"ของทางบริษัท โดยวงเงินชดเชยดังกล่าวถือเป็นวงเงินสูงสุดที่คณะลูกขุนในสหรัฐสั่งให้มีการจ่ายให้แก่โจทก์

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เบลล์ อินเวสต์เมนท์ แอดไวเซอร์ส ในรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า นักลงทุนมองเห็นโอกาสที่ดีในการช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาแสดงมุมมองในด้านบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความล่าสุดว่า จะต้องใช้เวลาอีก 3-4 สัปดาห์จึงจะทราบว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความสำเร็จหรือไม่ พร้อมระบุว่า สหรัฐกำลังอยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในการทำข้อตกลงกับจีน ขณะที่เม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์กำลังไหลกลับสู่สหรัฐ และการจ้างงานกำลังกลับสู่สหรัฐเช่นกัน นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขายังคงมีความเคารพและมิตรภาพอย่างไม่จำกัดต่อปธน.สี จิ้นผิง แต่ย้ำว่า ข้อตกลงที่เกิดขึ้นจะต้องเป็นข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับสหรัฐ

ทางด้านนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปได้ออกมาแสดงมุมมองที่ค่อนข้างเป็นบวกว่า สหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้ในที่สุด โดยแม้ว่าปัจจัยการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยังคงทำให้ตลาดหุ้นแกว่งตัวในระยะสั้น แต่คาดว่าตลาดได้ปรับตัวรับข่าวดังกล่าวได้ในระดับหนึ่งแล้ว

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าขยับขึ้นเพียง 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน ในเดือนเม.ย. และหากเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าลดลง 0.2% ในเดือนเม.ย. ส่วนดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และหากเทียบรายปี ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.3%

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., สต็อกสินค้าภาคธุรกิจเดือนมี.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนเม.ย., ดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.จาก Conference Board และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ