ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐกล่าวว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน จะจบลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ตลาดดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากการที่นางเทเรซา เมย์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมแล้ว หลังจากประสบความล้มเหลวในความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะขอการสนับสนุนจากรัฐสภาอังกฤษสำหรับข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.56% ปิดที่ 375.89 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,316.51 จุด เพิ่มขึ้น 35.15 จุด หรือ +0.67% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,011.04 จุด เพิ่มขึ้น 58.63 จุด หรือ +0.49%ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,277.73 จุด เพิ่มขึ้น 46.69 จุด หรือ +0.65%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้น หลังจากปธน.ทรัมป์เปิดเผยว่า เขาจะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ในการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในเดือนหน้า โดยการประชุมสุดยอด G20 จะจัดขึ้นที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิ.ย.
ปธน.ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การพบปะกับปธน.สี จิ้นผิง จะช่วยผ่อนคลายความขัดแย้งในการเจรจาการค้ากับจีน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ ปธน.ทรัมป์ระบุว่า สหรัฐจะผ่อนคลายคำสั่งห้ามการทำธุรกิจกับหัวเว่ย โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้า
ทั้งนี้ ตลาดไม่ได้รับผลกระทบจากการที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม โดยจะมีผลในวันที่ 7 มิ.ย.นี้
อย่างไรก็ดี นางเมย์จะยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะมีการสรรหาผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมคนใหม่
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค กลุ่มเหมืองแร่ กลุ่มประกัน และ กลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น
หุ้นโนวาติส และหุ้นโรช ในกลุ่มเฮลธ์แคร์ ปรับตัวขึ้นมากที่สุด หลังบริษัทเจฟฟรีย์ยังคงให้มุมมองเชิงบวกต่อหุ้นเวชภัณฑ์ดังกล่าว และได้แนะนำให้ซื้อหุ้นโรช
บรรดาชาวยุโรปจะเดินทางไปเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรปซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 4 วันตั้งแต่วันพฤหัสบดี และคาดว่าจะทราบผลการเลือกตั้งในวันจันทร์