ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 512.40 จุด ขานรับปธ.เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 5, 2019 06:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) ขานรับสัญญาณบวกที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้ให้คำมั่นว่า เฟดจะดำเนินการในสิ่งที่จำเป็นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และอาจนำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) กลับมาใช้อีกครั้ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวที่ว่า สภาคองเกรสเตรียมลงมติคัดค้านแผนการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,332.18 จุด พุ่งขึ้น 512.40 จุด หรือ +2.06% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,803.27 จุด เพิ่มขึ้น 58.82 จุด หรือ +2.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,527.12 จุด เพิ่มขึ้น 194.10 จุด หรือ +2.65%

ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติพุ่งขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดกำลังจับตามองพัฒนาการทางเศรษฐกิจในขณะนี้ และจะดำเนินการในสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจดำเนินต่อไป

"เราไม่รู้ว่าการทำสงครามการค้าจะได้ข้อยุติเมื่อใด และอย่างไร แต่เรากำลังจับตามองสิ่งบ่งชี้เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ และเราจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อไป โดยมีตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับเป้าหมาย 2%" นายพาวเวลกล่าว

นายพาวเวลยังเปิดเผยว่า เครื่องมือที่เฟดเคยใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ ซึ่งได้แก่ การกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ใกล้ 0% และการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE มีแนวโน้มที่จะนำมาใช้อีกครั้งหนึ่ง

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ซึ่งระบุว่า สมาชิกสภาคองเกรสสังกัดพรรครีพับลิกันกำลังหารือกันเกี่ยวกับการลงมติคัดค้านแผนการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงของทางการจีนซึ่งระบุว่า จีนสนับสนุนการเจรจาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ

หุ้นกลุ่มรถยนต์ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นเจเนรัล มอเตอร์ (GM) และฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 6.02% และ 3.23% ตามลำดับ หลังจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ดัชนี Nasdaq เข้าสู่ภาวะพักฐานในวันดังกล่าว โดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 3.6% หุ้นเฟซบุ๊ก ดีดขึ้น 2.04% หุ้นอเมซอน เพิ่มขึ้น 2.2% หุ้นอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล เพิ่มขึ้น 1.5% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 5% หุ้นอินเทล เพิ่มขึ้น 3.06% หุ้นควอลคอมม์ ดีดตัวขึ้น 2.7% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 6.9%

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 3.6% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 4.6% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 5.2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก เพิ่มขึ้น 2.6% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 3.1%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.8% ในเดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.9% โดยการร่วงลงของคำสั่งซื้อภาคโรงงานได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของคำสั่งซื้อเครื่องบิน, รถยนต์, คอมพิวเตอร์ และสินค้าอิเลคทรอนิคส์

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนเม.ย., ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 1/2562, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ