ดาวโจนส์พุ่งไม่หยุด ล่าสุดทะยานกว่า 200 จุด คลายกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-เม็กซิโก

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 10, 2019 23:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานกว่า 200 จุด ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่สหรัฐได้ระงับการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายจากเม็กซิโก

ณ เวลา 22.51 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,201.08 จุด บวก 217.14 จุด หรือ 0.84%

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า การจัดเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกจะถูกระงับต่อไปโดยไม่มีกำหนด ขณะที่เขาแสดงความ เชื่อมั่นว่า เม็กซิโกจะทำการกวาดล้างต่อผู้อพยพผิดกฎหมายจากอเมริกากลาง

นายมาร์เซโล เอบราร์ด รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโก เปิดเผยว่า รัฐบาลเม็กซิโกจะส่งทหาร 6,000 นายเข้าไปประจำการในพื้นที่ชายแดนตอนใต้ซึ่งอยู่ติดกับกัวเตมาลา เพื่อสกัดกั้นการหลั่งไหลของผู้อพยพ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากเม็กซิโก ในอัตรา 5% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. และจะเพิ่มขึ้นทุกเดือนจนแตะระดับ 25% ในวันที่ 1 ต.ค. ถ้าเม็กซิโกไม่สามารถสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายที่ข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐ

ราคาหุ้นของบริษัทเจเนรัล มอเตอร์ (GM) และฟอร์ด ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าเม็กซิโก ต่างพุ่งขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอด G20 ซึ่งคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน จะพบปะกันนอกรอบการประชุมดังกล่าว ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28-29 มิ.ย.

นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า ปธน.ทรัมป์จะตัดสินใจว่าจะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าจีนหรือไม่ หลังการประชุมกับปธน.สี จิ้นผิง

นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยจะดำเนินการอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐ

ทั้งนี้ เฟดจะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 18-19 มิ.ย. ขณะที่ FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 79% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค. และมีโอกาส 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และโอกาสมากกว่า 80% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ