ดาวโจนส์ฟิวเจอร์นิ่ง บ่งชี้วอลล์สตรีทปรับตัวแคบ นักลงทุนรอถ้อยแถลง"พาวเวล"คืนนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 25, 2019 20:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์แทบไม่ขยับในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวแคบในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจ และทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ณ เวลา 20.10 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 8 จุด หรือ 0.03% สู่ระดับ 26,770 จุด

ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่สภาวิเทศสัมพันธ์ในวันนี้ เวลา 13.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือเที่ยงคืนนี้ตามเวลาไทย

มีการคาดการณ์กันว่า นายพาวเวลจะกล่าวเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้

การกล่าวสุนทรพจน์ของนายพาวเวลมีขึ้น หลังจากที่เฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้ม 100% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้

นายหวัง โส่วเหวิน รมช.พาณิชย์จีน กล่าวว่า คณะเจรจาการค้าของจีนกำลังหารือกับตัวแทนจากทางสหรัฐเกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าก่อนการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการประชุม G20

นายหวังระบุว่า ทั้งสองฝ่ายต้องการสร้างความคืบหน้าจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำของจีนและสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว

การประชุมสุดยอด G20 จะมีขึ้นที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิ.ย.

ทั้งนี้ กลุ่ม G20 ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล สหราชอาณาจักร แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหรัฐ และสหภาพยุโรป

การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในเดือนที่แล้ว โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10%

นอกจากนี้ สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ และสหรัฐยังได้เพิ่มรายชื่อบริษัทจีนอีก 5 แห่งเข้าไปในบัญชีดำดังกล่าวในสัปดาห์ที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ