ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐและอิหร่าน และความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะเดียวกัน ตลาดยังจับตาการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.10% ปิดที่ 383.40 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,514.57 จุด ลดลง 7.14 จุด หรือ -0.13% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,228.44 จุด ลดลง 46.13 จุด หรือ -0.38% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,422.43 จุด เพิ่มขึ้น 5.74 จุด หรือ +0.08%
ตลาดปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน หลังนายมาจิด ทาคห์ ราวานชี เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรของอิหร่านประจำสหประชาชาติกล่าวว่า ขณะนี้ การเจรจากับสหรัฐแทบเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หลังจากที่สหรัฐได้เพิ่มการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน พร้อมกับเตือนด้วยว่า ขณะนี้สถานการณ์ในอ่าวเปอร์เซียอันตรายเป็นอย่างยิ่ง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวันจันทร์เพื่อทำการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ในการตอบโต้ต่อการที่อิหร่านยิงโดรนของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดย นายหวัง โส่วเหวิน รมช.พาณิชย์จีน กล่าวว่า คณะเจรจาการค้าของจีนกำลังหารือกับตัวแทนจากทางสหรัฐเกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าก่อนการพบปะกันระหว่างปธน.สี และปธน.ทรัมป์ ในการประชุม G20 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้
หุ้นกลุ่มค้าปลีก กลุ่มรถยนต์ และ กลุ่มธนาคาร นำตลาดปรับตัวลง
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง ก่อนการแถลงสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด โดยนายพาวเวลไม่ได้ส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยในการกล่าวสุนทรพจน์ รวมทั้งนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ก็แสดงความเห็นคัดค้านการที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%
หุ้นเรโนลต์ ลดลง 2.03% หุ้นเดมเลอร์ ลบ 0.36% หุ้นคาร์ฟูร์ ร่วงลง 3.49% หุ้นเอชเอสบีซี ลบ 0.24% และ หุ้นบาร์เคลยส์ ลดลง 1.05%